วิธีล้างถังเครื่องซักผ้าทั้งฝาหน้าฝาบน ทำได้ง่ายด้วยตัวเอง
ปัจจุบันนี้แทบทุกบ้านหันมาใช้เครื่องซักผ้ากัน เนื่องจากสะดวกกว่าการซักมือแล้วก็ที่สำคัญ ในยุคสมัยที่เร่งรีบที่ผู้คนจำเป็นต้อง
ออกไปเรียนไปทำงานการมานั่งซักผ้าครั้งละตัวบิดน้ำทีละตัวเป็นเรื่องที่ใช้เวลาแทบจะทั้งวันยิ่งบ้านไหนที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่
แน่นอนว่ายิ่งเต็มไปด้วยผ้ากองโตที่กว่าจะซักมือเสร็จก็เหน็ดเหนื่อยอ ย่ างยิ่งจริงๆและกินเวลาตลอดวันไปมากแม้กระนั้นหลายๆ
คนนั้นก็ใช้เครื่องซักผ้ากันรัวๆติดๆกันมานานแล้วก็มีหลายๆบ้านที่ใช้เครืองซักผ้าจนกระทั่งลืมทำความสะอาดถังซักผ้าเราใช้เครื่อง
ซักผ้าทำความสะอาดเสื้อผ้าเครื่องนุ่มห่มแต่กลับลืมที่จะทำความสะอาดตัวถังเครื่องผ้าเองซึ่งหากเป็นได้ถ้าเกิดมีเวลาควรจะล้างถัง
ซักทุก 1-2 เดือน สำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้าแล้วก็ทุก 2 อาทิตย์ สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน เพื่อกำจัด เ ชื้ อ โ ร คคราบผงซักฟอก
คราบน้ำ ย าปรับผ้านุ่ม รวมทั้งสิ่งสกปรกต่างๆที่บางทีอาจทำให้เกิดปัญหาติดเป็นคราบเปื้อนอยู่ตามเสื้อผ้าหลังการซักได้
ใช้ได้ทั้งเครื่องซักผ้าฝาหน้าและเครื่องซักผ้าฝาบน ให้กลับมาสะอาด ไม่มีสิ่งสกปรกหลงเหลือ
น้ำส้มสายชู นับว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยยอดนิยมสำหรับในการทำความสะอาด รวมทั้งการล้างเครื่องซักผ้า โดยเปิดโปรแกรมซักน้ำ
ร้อนที่อุณหภูมิ 60 °C หลังจากนั้นเทน้ำส้มสายชู 230 มล.ลงไปในช่องใส่ผงซักฟอก เปิดเครื่องปั่นสัก 3 นาที เพื่อน้ำส้มสายชู
ละลายไปกับน้ำ เสร็จแล้วแช่ทิ้งเอาไว้ 1-2 ช ั่วโมง แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยกดให้เครื่องดำเนินงานแบบปกติ ต่อจากนั้นก็ล้าง
เครื่องเปล่าตามอีก 1-2 ครั้ง เพื่อขจัดกลิ่นน้ำส้มสายชู เท่านี้เครื่องซักผ้าก็จะกลับมามีความสะอาดและก็ช่วย ฆ่ า เ ชื้ อโ ร ค
แบคทีเรียในถังซักได้แล้วน้ำส้มสายชูกับเบกกิ้งโซดา วิธีนี้นอกเหนือจากการที่จะทำให้เครื่องซักผ้าสะอาด ยังช่วยป้องกันกลิ่นอับ
ได้อีกด้วยโดยผสมเบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ และก็น้ำ 1-2 ช้อนชา เข้าด้วยกัน คนจนเป็น ส า ร ละลายเหนียวๆข้นๆแล้วใส่ลงไปใน
ช่องใส่ผงซักผ้า แล้วหลังจากนั้นเทน้ำส้มสายชูราวๆ 250 มล.ตามลงไป แล้วตั้งค่าเป็นซักด้วยน้ำร้อนหรือน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 60 °C
พร้อมเปิดเครื่องทำงานตามปกติ
ปัญหาที่พบบ่อยเวลาซักผ้าคือ ซักเครื่อง อ ย่ า งไรไม่ให้มีคราบติดผ้า
บ่อยครั้งที่เปิดเครื่องออกมาแล้วจะต้องพบคราบติดผ้าซึ่งเกิดได้จากหลายกรณีคราบเปื้อนขาวจากผงซักผ้าที่ไม่ละลาย หรือละลาย
ไม่หมดบางทีอาจแก้ได้ด้วยการไม่ใส่ปริมาณผ้าที่ซักมากเกินความจำเป็นหรือลดการใส่ผงซักฟอกที่มากเกินไปหรือแก้ไขได้ใทันที
ด้วยการเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าชนิดน้ำที่เหมาะกับซักเครื่องโดยเฉพาะอ ย่ างยิ่งหรือคราบเปื้อนที่เกิดขึ้นมาจากขุยเส้นใยผ้า
ของผ้าสีเข้มไปเกาะติดผ้าสีอ่อนทำให้ผ้าดูไม่สดใสและก็หมองคล้ำสกปรกจำเป็นต้องแยกซักผ้าสีเข้มรวมทั้งผ้าสีอ่อนออกมาจาก
กันนอกจากการล้างถังเครื่องซักผ้าแล้วเรายังมีเคล็ดลับดีๆเกี่ยวกับการซักผ้ามาฝากกันด้วยส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
กำจัดคราบเหลืองบนปกเสื้อ ปกคอเสื้อเหลือง
เพียงแค่พวกเรานำน้ำ ย าสำหรับล้างจานเทใส่บริเวณที่มีคราบเหลืองบนปกเสื้อทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 30 นาที ต่อจากนั้นล้างออก
ด้วยน้ำอุ่นและก็หลังจากนั้นจึงค่อยใช้ผงซักฟอกขยี้ออกอีกรอบปกเสื้อก็จะกลับมามีความสะอาดอย่ างเดิมแล้วหรือจะใช้น้ำส้สายชู
ก็ได้โดยผสมน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงแล้วค่อยนำไปเทใส่รอยเปื้อนบนปกเสื้อหลังจากนั้นก็ปล่อยทิ้งเอาไว้สัก
ครึ่งช ั่วโมงแล้วจึงล้างออกพร้อมนำไปซักแบบปกติ
ข้อนี้สำคัญมากสำหรับบางคนที่เร่งรีบจนข ี้เกียจนไม่ได้รูดซิปก่อนซัก
ข้อนี้นับว่าสำคัญมาก เพราะเหตุว่าถ้าเกิดซักเสื้อผ้าที่มีซิปรวมกับเสื้อผ้าเนื้อบาง ฟ ันซิปจะขูดเสื้อผ้าตัวอื่นจนขาด เพราะฉะนั้นควร
จะรูดซิปปิดให้สนิททุกครั้งก่อนนำเอาไปซักรวมกับเสื้อผ้าตัวอื่นๆเพื่อป้องกันความเสียหาย
วิธีขจัดคราบมันที่หกเลอะหรือหยดลงบนเสื้อผ้า
ถ้าเกิดคุณบังเอิญทำกับข้าวมันๆหกเลอะเทอะเสื้อผ้าให้ถูน้ำย าสำหรับล้างจานเล็กน้อยลงบนคราบเปื้อนนั้นแล้วล้างออกด้วยน้ำ
เปล่าแนวทางลักษณะนี้ได้ประสิทธิภาพที่ดีกับรอยเปื้อนที่คอเสื้อด้วยด้วยเหมือนกันโดยส่วนประกอบในน้ำย าที่เอาไว้ล้างจาอ่อน
โยนพอที่จะจัดการกับรอยคราบบนผ้ารวมถึงผ้าขนสัตว์และก็ผ้าไหมที่ซักได้เพราะเหตุว่าไม่ไปทำลายเนื้อผ้าเหมือนกับผงซักผ้า
ที่ใช้ ส า ร เอนไซม์สำหรับการจัดการกับรอยคราบนั่นเองค่ะขั้นตอนล้างเครื่องซักผ้าง่ายๆไม่กี่ข้อก็ทำให้เครื่องซักผ้าของคุณสะอาด
น่าใช้แล้วและก็ถ้าเกิดไม่ต้องการให้เครื่องซักผ้ากลับมาสะสม เ ชื้ อ โ ร คอีกครั้งก็จะต้องหมั่นล้างเครื่องซักผ้าตามขั้นตอนนี้ทุกๆ
2 อาทิตย์ด้วยจ้ะ
ขอขอบคุณที่มา feedsod