Home ข่าวทั่วไป 8 คำต้องห้าม ที่พ่อแม่ไม่ควรใช้พูดบั่นทอนความรู้สึกลูก

8 คำต้องห้าม ที่พ่อแม่ไม่ควรใช้พูดบั่นทอนความรู้สึกลูก

8 คำต้องห้าม ที่พ่อแม่ไม่ควรใช้พูดบั่นทอนความรู้สึกลูก

8 คำต้องห้าม ที่พ่อแม่ไม่ควรใช้พูดบั่นทอนความรู้สึกลูก

1 สั่ ง ลู ก ไม่ให้ร้องไห้

การสั่งห้ามไม่ให้เ ด็ กร้องไห้ โดยเฉพาะเมื่อผู้ปกครองกำลังมีอารมณ์ด้วยแล้ว จะทำให้เ ด็ กรู้สึกกลัวมากขึ้นและไม่สามารถหยุดร้อง หรือจัดการกับอารมณ์ตัวเองได้ เพราะรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังเป็น ทุ ก ข์อยู่สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรจะทำคือปล่อยให้เ ด็ กร้องไห้เพื่อระบายความอัดอั้นตันใจก่อน และค่อยๆ บอกลูกให้เข้าใจว่า

เวลาที่เราเสียใจเราสามารถแสดงออกได้ ซึ่งการร้องไห้ก็ถือเป็นการแสดงออกรูปแบบหนึ่ง ถ้าลูกหยุดร้องและสงบแล้วเราค่อยมาคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อให้เ ด็ กรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นห่วง และกำลังช่วยให้เขาเข้าใจและหาวิธีจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง

2 คำ สั่ ง ห้ามต่างๆ เช่น ไม่ อ ย่ า หยุด

การพูดห้ามเ ด็ กบ่อยๆ จะทำให้เ ด็ กขาดความมั่นใจที่จะทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง เพราะกลัวที่จะทำผิดหรือทำแล้วไม่ถูกใจผู้อื่นทำให้เ ด็ กไม่กล้าคิดและไม่กล้าทดลองทำสิ่งใหม่ๆ ซึ่งอาจจะทำให้เขาเสียโอกาสที่จะเรียนรู้ว่าตัวเองมีความสามารถด้านไหนชอบหรือไม่ชอบทำอะไร และทำอะไรได้ดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะพูด 3 คำนี้ไม่ได้เลย คงต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วยเพราะถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่อั น ต ร  า ยหรือไม่เหมาะสมก็สามารถพูดได้ที่สำคัญก็คือ

ควรมีการอธิบายให้เ ด็ กเข้าใจถึงเหตุผลว่าสิ่งนี้ทำไม่ได้เพราะอะไรหรือถ้าเป็นสถานการณ์ปกติทั่วไป คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเปลี่ยนคำพูดจากการห้ามเป็นการบอกสิ่งที่เ ด็ กควรทำให้ชัดเจนเช่น เดินจับมือแม่ไปด้วยกันนะคะ  ห นูจะได้ไม่หลงแทนคำว่าอ ย่ าวิ่งไปไหนนะหรือเก็บของใส่กล่องเบาๆ นะคะ แทนคำว่า อย่ าโยนของแรงๆสิเป็นต้น

3 พู ด เปรียบเทียบหรือประชดประชัน เช่นไม่เห็นน่ารักเหมือนน้องคนนั้นเลยดูสิ ลูกคนอื่นเขายังทำได้เลย

การที่คุณพ่อคุณแม่ใช้คำพูดในลักษณะนี้ เพราะอย ากผลักดันให้ลูกเกิดความพย าย ามในการทำสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้นหรือเพื่อให้ลูกพัฒนาตัวเองมากขึ้น แต่รู้มั้ยว่าคำพูดเหล่านี้กลับกลายเป็นการทำ ร้ า ยจิตใจและทำให้เ ด็  กรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่าไม่มีความสามารถ ไม่เก่งหรือไม่ดีพอเท่ากับเ ด็ กคนอื่น กลายเป็นเ ด็ กที่ไม่กล้าแสดงออก ขาดความมั่นใจ และอาจทำให้เ ด็ กมีนิสัยข ี้อิจฉา

สร้างความเ ก ลี ย ดชังให้กับคนที่เ ด็ กโดนเอาไปเปรียบเทียบโดยไม่รู้ตัว ทำให้เ ด็ กลุกขึ้นมาต่อต้าน บางคนก็อาจแสดงออกด้วยความก้าวร้าว รุ น แ ร งและพย าย ามทำตัวเองใbห้อยู่ด้านตรงกันข้ามกับที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจก่อนว่าลูกมีข้อดีอย่ างไรหรือมีความชอบ ความถนัดด้านไหน จากนั้นก็พย าย ามส่งเสริม สนับสนุนในสิ่งที่เขาทำ และควรแสดงความชื่นชมเพื่อให้เขาเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง

และพัฒนาศักยภาพของตัวเองไปในทางที่ถูกต้อง คุณพ่อคุณอาจจะเล่าว่าเ ด็ กคนอื่นหรือญาติพี่น้องในวัยเดียวกันมีความสามารถหรือมีข้อดีอ ย่ างไรในขณะเดียวกันก็ต้องบอกให้ลูกมั่นใจว่าตัวเองก็มีส่วนที่ดีหรือส่วนที่สามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้เช่นกัน เพื่อให้เ ด็ กมีความมั่นใจและเชื่อว่าคนทุกคนสามารถพัฒนาได้ ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องเก่งเหมือนใคร แต่เราสามารถเก่งในแบบของเราได้

4 พู ด เชิงบังคับ เคี่ยวเข็ญเช่นทำไมไม่รับผิดชอบอะไรเลยต้องพย าย ามให้มากกว่านี้สิเทอมนี้เกรดต้องดีกว่านี้นะ

การใช้คำพูดเชิงบังคับ เคี่ยวเข็ญ ส่งผลคล้ายกับการพูดเปรียบเทียบ นั่นคือ ทำให้เ ด็ กรู้สึกไม่มีคุณค่า ไม่กล้าแสดงออกทำให้เ ด็ กรู้สึกเครียด และกดดันตัวเองจนทำให้กลายเป็นคนมองโลกในแง่ ร้ า ย ไม่ไว้ใจผู้อื่น หรือมุ่งสู่ความสำเร็จเพียงอ ย่ างเดียวโดยไม่สนใจคนรอบข้างและยังทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวไม่ราบรื่น

เพราะเ ด็ กอาจแสดงความก้าวร้าว รุ น แ ร ง ต่อต้านผู้ปกครองและพย าย ามทำตัวเองให้อยู่ด้านตรงข้ามกับคุณพ่อคุณแม่แนะนำว่าลองเปลี่ยนจากการบังคับมาเป็นให้กำลังใจลูกแทนจะดีกว่าเพราะการให้กำลังใจเป็นการแสดงออกถึงความรักและความห่วงใย เ ด็ กเองก็จะรับรู้ได้ถึงความหวังดีที่พ่อแม่มีให้ซึ่งจะช่วยให้เ ด็ กมีความมุ่งมั่นและมั่นใจที่จะทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น และยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ดีขึ้นด้วย

5 ต ว า ดหรือพูดด้วยอารมณ์ เมื่อโมโห หรือขาดสติ

การพูดโดยใช้อารมณ์เวลาที่โมโหหรือขาดสติ อาจทำให้เ ด็ กจดจำและนำไปลอกเลียนแบบได้เพราะเ ด็ กจะซึมซับและคิดว่าการพูดไม่ดีเป็นสิ่งที่ทำได้ ดังนั้น เวลาที่คุณพ่อคุณแม่โมโห หรืออารมณ์ไม่ดีซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ให้ลองหลับตา หายใจเข้าลึกๆ หายใจออก ย า วๆ

พย า ย า ม ทำจิตใจให้สงบและตั้งสติก่อนแล้วค่อยพูดกับลูกพย าย ามพูดคุยหรืออธิบายด้วยเหตุผลหากเป็นเรื่องที่ต้องการให้เ ด็ กเข้าใจ แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆก็เอาตัวเองออกไปจากสถานการณ์ตรงนั้นก่อน ค่อยๆ ใช้เวลาปรับอารมณ์ เมื่อคิดว่าตัวเองพร้อมก็ค่อยกลับมาพูดกับลูก

6 คำ พู ด ขู่ เช่นเดี๋ยวจะเอาไปทิ้งเดี๋ยวไม่รักนะอย่ าทำแบบนี้เดี๋ยวตำรวจมาจับหรือผีมาหลอก

การขู่ที่มีเงื่อนไขของการไม่ได้รับความรักหรือการถูกทิ้ง จะทำให้เ ด็ กไม่มั่นใจในตัวเอง เพราะไม่แน่ใจว่าเป็นที่รักของครอบครัวหรือไม่และทำให้เ ด็ กเกิดความหวาดระแวง กลายเป็นคนข ี้กลัว นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความเข้าใจผิดให้กับเ ด็ กอีกด้วยว่าการได้มาซึ่งความรักจะต้องมีเงื่อนไขเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียความนับถือในตัวเองและผู้อื่นได้การพูดขู่เ ด็ กโดยไม่มีเหตุผล

จะทำให้เ ด็ ก รู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งต่างๆ รอบตัว และทำให้เ ด็ กไม่สามารถใช้ความคิดและเหตุผลในการไตร่ตรองสิ่งต่างๆ ได้อย่ างถูกต้องทำให้เกิดความเปราะบางทางด้านจิตใจ และเมื่อ ด็ กเผชิญปัญหา เ ด็ กก็จะกลัวและไม่สามารถหาทางแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเองดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรพูดกับลูกด้วยเหตุผลที่สมจริง หรือสอนในสิ่งที่เขาทำได้และควรทำ ที่สำคัญ ควรชื่นชมและแสดงความภาคภูมิใจ เมื่อลูกๆ สามารถปฏิบัติตัวได้อ ย่ างถูกต้อง

7 ใ ช้ คำพูดล้อเลียน หรือเลียนแบบคำที่เ ด็  กพูดไม่ชัด

บางครั้งผู้ใหญ่ก็ไม่ได้คิดว่าคำบางคำเป็นการล้อเลียนเด็  ก เพราะคิดว่าพูดกันเล่นๆ สนุกๆ และมองว่าเ ด็ กยังเล็กคงไม่เข้าใจอะไรมาก แต่เมื่อเ ด็ กโตขึ้น มีสังคมที่กว้างขึ้น คำพูดเหล่านั้นจะทำให้เ ด็ กรู้สึกอาย ไม่มั่นใจในตัวเองเพราะหวาดกลัวที่จะโดนล้อเลียนจากครอบครัวและผู้อื่น ทำให้เ ด็ กไม่ชอบในสิ่งที่ตัวเองเป็น

จนอาจกลายเป็นปมในใจของ เ ด็ กได้คุณพ่อคุณแม่จึงควรพย าย ามพูดให้เ ด็ กเห็นข้อดีของตัวเองภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองมีหรือเป็น ชี้ให้เห็นว่าแต่ละคนมีความแตกต่างกัน และไม่จำเป็นต้องยึดติดกับรูปลักษณ์ภายนอกเสมอไป

8 พู ด เข้าข้างเมื่อลูกทำผิด เช่นลูกฉันไม่ผิดไหนใครว่าลูกฉัน

การพูดเช่นนี้เป็นการสร้างนิสัยเอาแต่ใจและไม่ยอมคนให้กับ เ ด็ ก เป็นการตามใจลูกในทางที่ผิดหรือที่เรียกว่าพ่อแม่รังแกฉันเพราะทำให้เ ด็ กไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี และเมื่อโตขึ้น เ ด็ กก็จะรับไม่ได้เมื่อถูกต่อว่าหรือตำหนิดังนั้น ถ้าพบว่าลูกทำผิดจริงอันดับแรกเลยคุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้เ ด็ กรู้จักขอโทษและยอมรับผิด ห้ามออกรับแทนลูกเด็ดขาดและชี้ให้เห็นว่าอะไรถูกหรือผิด

อะไรควรทำหรือไม่ควรทำ เพราะอะไร และถ้าทำผิดแล้ว จะมีผลอ ย่ างไรตามมา เพื่อให้ เ ด็ กเข้าใจและปรับปรุงตัวเองนอกจากจะสอนด้วยคำพูดแล้ว คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องทำตัวเป็นแบบอ ย่ า งที่ดีให้กับลูกๆ ด้วยเพราะบางอ ย่ างก็ได้ผลมากกว่าการใช้คำพูดเพียงอ ย่ างเดียว เช่น ถ้าเราไม่อ ย า กให้เขาเล่นโทรศัพท์ตัวเราเองก็ต้องพย าย ามอยู่ให้ห่างจากโทรศัพท์ หรือถ้าไม่อ ย า กให้ลูกพูดจาห ย าบคาย ตัวเราเองและคนใกล้ชิดก็ต้องไม่พูดเช่นกันที่สำคัญ ตั้งสติทุกครั้งก่อนที่จะพูดอะไรกับลูก เพราะทุกคำพูดของพ่อแม่มีผลกับจิตใจของลูก

ขอขอบคุณที่มา forlifeth

Load More Related Articles
Load More By Sitsmiling-T
Load More In ข่าวทั่วไป

Check Also

เอากระดาษทิชชู่ม้วน วางทิ้งไว้ในตู้เย็น ผลที่ออกมาเกินคาด

เอากระดาษทิชชู่ม้วน วางทิ้งไว้ในตู้เย็น ผลที่ออกมาเกินคาด วิธีที่เรากำลังจะบอก นั่นก็คือแค…