เปิดแอร์เย็นฉ่ำทั้งบ้าน เปิดทั้งวันก็ไม่เปลือง ประหยัดไฟเยอะ
ห น้ าร้ อ นทีไร เปลืองไฟทุกที จากที่เงินเดือนชนเดือนแทบจะไม่พอใช้ ค่าไฟ สี่ห้าร้อย แต่พอหน้าร้อนทีไร พุ่งขึ้นไปหลักพัน ยิ่งช่วงไหนทำงานที่บ้านมีแตะ 2 พันอัพ เพราะอากาศร้อน ใจมันหงุดหงิดก็ทำงานไม่ได้ ไหนๆ ก็ไหนๆ เราแก้ปัญหาเรื่องร้อนหรือเย็นไม่ได้ เราก็แก้ปัญหาค่าไฟเอาละกันวันนี้เรามีเคล็ดลับดีๆ มาบอก เอาไปลองทำดูนะคะ เผื่อจะช่วยลดค่าไฟได้บ้าง ด้วยวิธีง่ายๆ แค่ปรับรีโมทแอร์ให้ถูกต้องแค่นั้นเอง เพราะแอร์นี่โคตรเปลืองไฟเลยเพื่อนๆ รู้ไหม ว่าการที่เราเซ็ตอะไรไปบนรีโมทแล้วนั้น
แอร์มันจะจำเอาไว้ และสั่งให้เครื่องทำตามโหมดที่เรากำหนดนั้นทุกครั้งที่เราเปิดมันขึ้นมา และตลอดเวลาที่เราเปิด มันก็จะทำงานแบบนั้นจนกว่าจะมีการเปลี่ยนโหมดใหม่อีกครั้งหนึ่งนึกส ภ า พ บางทีคือมันร้อนมาเราเลยเปิดแอร์แบบเย็นฉ่ำ และเปิดโหมดพัดลมสูงสุด หรือบางทีอากาศมันหนาวมากทำให้เราเผลอเปิดแอร์แบบอุณภูมิสูงๆ แล้วพอปิดไปมาเปิดอีกวันที่อากาศร้อนมาก
แอร์มันจำค่าที่เราตั้งไว้เมื่อวาน มันก็เลยไม่เย็น หลายคนเลยคิดว่าแอร์เสียซะอีกเมื่อช่างไปถึงปรากฏว่าแอร์ถูกตั้งให้ทำงานในโหมด Fan เมื่อช่างลองปรับกลั บมายังโหมด Cool แ อ ร์ก็กลั บมาทำความเย็นได้ต ามปกติ โดยผู้ผลิตแอร์ในปัจจุบันได้ใส่โหมดการทำงานหลักพื้นฐาน มาให้ 4 โหมดการทำงาน ได้แก่ โหมด Auto Cool Fan Dryและสำหรับแอร์รุ่นใหม่ๆ
โดยเฉพาะแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์รุ่นที่มาพร้อมด้วยฟังชั่นเสริมมากมายอาจจะมีอีกหนึ่งโหมดการทำงานเพิ่มเข้ามา นั่นคือโหมด Heat โดยแต่ละโหมดการทำงานถูกออ กแบบให้มีการทำงานที่ต่างกันออ กไป และรายละเอียดของแต่ละโหมดคือ
โห ม ด Cool
COOL MODE. เป็นการปรับความเย็นให้เป็นไปตามอุณหภูมิที่เราปรับบนรีโมทตามปกติ ควรใช้โหมดนี้เป็นหลักในการใช้งาน ผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้ทั้งอุณหภูมิและความเร็วของพัดลม เหมาะสำหรับช่ ว งที่อากาศร้อน หรือตอนที่เราอย ากให้ห้องมีอุณหภูมิเย็นมากหรือน้อยตามใจเรา
โห ม ด Auto
Auto Mode เป็นโหมดที่นิยมใช้กันมากที่สุด เป็นการปรับความเย็นโดยอัตโนมัติที่เซนเซอร์ที่ตัวแอร์กำหนดไว้ เมื่อเปิดแอร์แล้ว พัดลมแอร์จะทำหน้าที่หมุนเร็วๆ เพื่อจะให้ห้องนั้นเย็นในขนาดกำลังเหมาะ
เมื่อห้องเย็นแล้วก็จะปรับไปที่โหมด Cool หรือ Dry โดยอัตโนมัติ เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวก สบาย ไม่ต้องการปรับเองหรือปรับซับซ้อนโดยที่โหมดการทำงานอาจสลั บกันเองระหว่างโหมด Cool กับ Dry เช่น หากอุณหภูมิตั้งอยู่ที่ 24 องศาเซลเซียส
เมื่อระบบตรวจพบว่าอุณห ภู มิ ห้องสูงเกินกว่า 25 องศาเซลเซียส ก็จะเลือ กการทำงานในโหมด Cool เพื่อทำความเย็นให้กับห้อง และจะสลั บไปโหมด Dry โดยอัตโนมัติ เมื่ออุณหภูมิห้องล ดลงมาต่ำกว่าค่าของอุณหภูมิที่ตั้งไว้
โห ม ด Fan
โหมด fan ในเครื่องปรับอากาศประโยชน์หลักๆน่าจะเป็นการกำจัดความชื้นของชุดแผงคอล์ยเย็นของแอร์กรณีที่ไม่ได้เปิดมาเป็นเวลานานๆที่กดเลือ กโหมด Fan จึงทำให้คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน และไม่มีน้ำย าแอร์ไหลวนเข้ามายังชุดคอยล์เย็น
โหมดนี้จะมีประโยชน์อ ย่ างมากเมื่อเจอปัญหากลิ่นเหม็นอับที่ออ กมาจากแอร์ โดยการใช้งานนั้นคือเมื่อเราใช้แอร์เสร็จหรือเป็นช่วงที่ใกล้จะปิดแอร์ ก่อนจะปิดแอร์หากเราเปลี่ยนให้แอร์ทำงานในโหมด Fan ต่อไปอีกประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงปิดเครื่อง ก็จะช่วยเป่าแผงคอยเย็นด้านใน ล ดความชื้นสะสม ทำให้ช่วยล ดกลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์ได้
โห ม ด Dry
โหมด DRY ควบคุมความชื้น แอร์จะทำหน้าที่รีดความชื้นในอากาศออกให้มากที่สุด โดยไม่สนใจว่าอุณหภูมิเท่าไหร่ เหมาะสำหรับตอนฝนตกอากาศหนาวเย็นแต่โหมด dry จะวัดอุณหภูมิที่ตัวครีบของคอยล์เย็น เทียบกับอุณหภูมิอากาศ เอาไปคำนวนหาความชื้น ความชื้นในอากาศถูกคอยล์เย็น ก็จะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ ไหลออกไป
โห ม ด Heat
โหมดการทำงานแบบ Heat หรือโหมดทำความร้อน ซึ่งในรีโมทแอร์บางยี่ห้อจะแทนโหมดนี้ด้วยสัญลักษณ์รูปด ว งอาทิตย์ เป็นโหมดการทำงานที่เพิ่งมีการนำเข้ามาใส่ในแอร์บางรุ่นที่ขายในบ้านเรา
โดยเมื่อกดปุ่ม Mode บนรีโมทคอนโทรล แล้วเลือกการทำงานให้อยู่ในโหมด Heat เมื่อเข้าสู่โหมดนี้ การทำงานของเครื่องจะเป็นการเพิ่มอุณหภูมิเพื่อทำความร้อนโดยส่วนใหญ่โหมด Heat จะจำกัดเฉพาะในแอร์รุ่นท็อประดั บบนๆของแต่ละยี่ห้อเท่านั้นแต่ก็แทบไม่จำเป็นเลยสำหรับสภาพอากาศในบ้านเรา
ขอขอบคุณที่มา 108archeepparuay kiddeemak99 sit-smiling