พ่อแม่ ไม่ใช่เป็นเพียงคนเฝ้าบ้าน เขียนไว้เตือนสติ
หลายๆ คนนั้น ให้ความสำคัญของคนนอกบ้านก่อน คนในบ้านอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งถ้าเป็นพ่อแม่ของเรา บางครั้งเราเองที่ละเลยความรู้สึกท่าน ละเลยสิ่งต่างๆ ที่เราควรใส่ใจควรให้ความสำคัญกับท่าน อย่ าได้เปรียบว่า พ่อแม่ของเราเหมือนคนเฝ้าบ้านต้นไม้ที่ยิ่งแก่นั้น ก็ยิ่งมีรากเยอะ เหมือนกับพ่อแม่ของเรายิ่งแก่ชรา ก็ยิ่งพูดมาก
คนโบราณที่กล่าวเอาไว้ว่า ในบ้านมีผู้ชราที่เป็นเสมือนของล้ำค่าที่มีค่ายิ่งนักอย่ าเห็นเพียงท่านเป็นคนเฝ้าบ้าน อย่ าเห็นท่านเป็นเพียงคนแก่คนหนึ่งก่อนนั้นที่เราพูดไม่ได้คนเฝ้าบ้านคนนี้นี่แหละ ที่เป็นคนสอนให้พูดก่อนนั้นที่เราเคี้ยวข้าวไม่เป็น คนเฝ้าบ้านคนนี้ นี่แหละ ที่คอยป้อนน้ำ เคี้ยวข้าว บดข้าวให้ทาน
ก่อนนั้นที่เราเดินไม่เป็น คนเฝ้าบ้านคนนี้ไงล่ะ ที่เป็นคนคอยจูงมือหัดเดินก่อนนั้นที่เรากินข้าวเหลือ คนเฝ้าบ้านคนนี้นี่แหละ ที่เอามากินต่อ โดยไม่บ่นสักคำก่อนนั้นที่เราล้างก ้นตัวเองไม่เป็นคนเฝ้าบ้านคนนี้ไงที่ล้างให้โดยไม่ รั งเกียจย ามเรียกลูกหลานกินข้าว ท่านเรียก ด้วยคำพูดอันอ่อนหวานอ่อนโยนย ามเรียกพ่อแม่ท่านทานข้าว เรียกด้วยน้ำเสียงอย่ างไรกัน ลองคิดดูนะ
แล้วในตอนนี้ คนที่เคยสำคัญที่สุดในชีวิตยังสำคัญที่สุดในชีวิตและจิตใจของคุณอยู่ไหม พ่อแม่ก็แก่เฒ่าจำจากเจ้าไม่อยู่นานจะพบพ้องพาน เพียงเสี้ยววารของคืนวันใจจริงไม่อย ากจากเพราะอย ากเห็นลูกหลานแต่ชีพ มิ ทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไปขอเถิดถ้าสงส า รอย่ ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอนไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทรให้กินและให้นอน คลาย ทุ ก ข์ผ่อนพอสุขใจเมื่อย ามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเ ย า ว์วัยร้องไห้ย ามป่ ว ย ไ ข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยนเฝ้าเลี้ยงจนโต แม้เหนื่อยกายก็ยอมทนหวังเพียงจะได้ผล เติบโตจนสง่างามขอโท ษถ้าทำผิ ด ขอให้คิดทุกทุกย ามใจแท้มีแต่ความหวังติด ตามช่วยอวยชัยต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่นานได้วันหนึ่งคงล้มไปทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง
ขอขอบคุณที่มา chayend