การเลี้ยงลูกตามใจอาจกลายเป็นพ่อแม่ รังแกฉัน
พ่อแม่ทุกคนรักลูกแต่การรักลูกโดยการต ามใจลูกจนเกินพอดีอาจกลายเป็นพ่อแม่ รังแกฉัน มีผลต่อพฤติก ร ร มของลูกเมื่อโตขึ้น
เช่นเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ตัวเองถูกเสมอคนอื่นสิผิ ด หรือ เอาแต่ใจตัวเอง อย ากได้อะไรต้องได้ซึ่งอาจสร้างปัญหาให้
ลูกเมื่อต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นนอ กบ้าน หากไม่ อ ย ากให้ลูกเ สี ยคน พ่อแม่ ต้องหยุดพฤติก ร ร มเหล่านี้ให้ได้โดยก่อนอื่นมาดูกันว่า
ลูกของเรานั้น เข้าข่ายเป็น เ ด็ กที่โดนสปอยล์หรือไม่
เช็กลิสต์อาการลูกถูกสปอยล์
ตามที่ สถาบันกุมารเวชศาสตร์จากประเทศสหรัฐอเมริกาได้นิย าม อาการของเ ด็ กที่ถูกสปอยล์ไว้ว่าเ ด็ กในกลุ่มนี้ มักจะเป็นเ ด็ ก
ที่เอาแต่ใจตนเองมีพฤติก ร ร มที่ถดถอยทำในสิ่งที่เ ด็ กในวัยนั้น ๆไม่ทำกันแล้ว แต่พ่อแม่หลายคนอาจสับสน ว่าพฤติก ร ร มที่ลูก
กำลังทำนั้น เรียกได้ว่าเป็นเ ด็ กที่ถูกสปอยล์หรือไม่หรือเป็นเพียงพฤติก ร ร มที่ปกติในช่วงวัยนั้น ๆมาดูเช็กลิสต์ อาการลูกถูก
สปอยล์ กันมีอารมณ์แปรปรวนไม่มีความเคารพผู้ใหญ่และเ ด็ กคนอื่นๆไม่มีแรงจูงใจในการเริ่มทำสิ่งใหม่ๆหลงตัวเอง หมกมุ่นอยู่
กับการโอ้อวดตัวตนของตนเองไม่เชื่อฟังคนอื่น ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนไม่สามารถอยู่คนเดียวได้จอมบงการ
4 พฤติก ร ร มพ่อแม่จอม สปอยล์ลูก
ให้ลูกเป็นทุกลมหายใจของพ่อแม่
เมื่อมีลูก พ่อแม่หล า ยคนก็ได้อุทิศชีวิตทั้งชีวิตให้กับลูก เป็นทุกอ ย่ าง ทำทุกอ ย่ าง คิดทุกอ ย่ าง ให้ลูกจนลูกไม่มีชีวิตเป็นของตัว
เอง พ่อแม่กลุ่มนี้ จะไม่อยู่ห่างจากลูก ยอมทิ้งทุกสิ่งอ ย่ างเพื่อทำต ามสิ่งที่ลูกต้องการ และทำให้ลูกเป็นศูนย์กลางจักรวาล
1 ชดเชยความผิ ดของพ่อแม่ด้วยสิ่งของ
เช่น พ่อแม่ที่ต้องทำงาน มักจะรู้สึกผิ ดที่ไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับลูกได้มากพอ จึงซื้อของเล่นให้ลูกเยอะ ๆ เพื่อชดเชยความผิ ดนี้ การทำ
แบบนี้ สอนให้เ ด็ กรู้ว่า เมื่อคนอื่นทำอะไรผิ ด เขาจะได้รับสิ่งของเป็นการตอบแทน สำหรับพ่อแม่ที่ต้อง ทำงานนอ กบ้าน ไม่ต้อง
กังวลใจไปว่าการมีเวลาอยู่กับลูกเพียงเล็กน้อย จะทำให้
ลูกมีปัญหา เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่ใช้เวลาคุณภาพอยู่กับลูก โดยการหากิจก ร ร ม ทำร่วมกัน และช่วงเวลาที่อยู่กับลูก ให้คุณพ่อคุณ
แม่โฟกัสไปที่ลูกเพียง อ ย่ างเดียว ไม่หยิบมือถือ ไม่คิดเรื่องงานหรือเรื่องอื่น ๆ แม้จะเป็นการใช้เวลา ร่วมกันเพียงน้อยนิด แต่ก็ช่วย
เติมเต็มให้ลูกได้มากกว่าการอยู่กับลูกทั้งวัน แต่พ่อแม่ไม่สนใจลูกอีกค่ะ
2 ไม่เคยปล่อยให้ลูกรอ
เมื่อลูกอย ากได้อะไรชี้อะไร สิ่งของเหล่านั้นจะมาอยู่ตรงหน้าลูกทันที พฤติก ร ร มที่พ่อแม่ทำนี้จะทำให้ลูกไม่รู้จักการรอคอยการ
อดทน การอดออมเพื่อให้ได้สิ่ง ที่ต้องการมาเป็นของตน ลูกจะไม่เห็นสิ่งอื่นๆมีค่าเพราะไม่เคยต้องอ ดทนรอ หรือคอยเลยบางครั้ง
การปล่อยให้ลูกได้หิว ร้อน เหนื่อยบ้าง จะทำให้ลูกรู้ว่าอาหารที่อยู่ตรงหน้าอร่อยเพียงใดก็เป็นได้ เข้าใจดีว่าเ ด็ กก็คือเ ด็ กในบาง
ครั้งลูกอาจจะงอแง อย ากมีอย ากได้ต ามวัย ของเขา และพ่อแม่ทุกคนก็ไม่อย ากเห็นลูกเ สี ยใจ แต่เราจะตามใจลูกได้แค่ไหน
โดยที่ไม่เป็นการสปอยล์ลูกจนเ สี ยนิสัย ไปดูเทคนิคกันค่ะ
3 รับฟังความต้องการของลูกแต่แก้ปัญหาต ามแนวทางของพ่อแม่
ให้ลองรับฟังลูกว่าลูกต้องการอะไร รู้สึกเ สี ยใจเพราะอะไร ยิ่งเราฟังลูกมาก เท่าไรลูกก็จะยิ่งไว้เนื้อเชื่อใจเราเท่านั้น และเมื่อรับฟัง
แล้วสิ่งสำคัญหลังจาก นั้นคือแนวทางการช่วยแก้ปัญหาให้ลูกพ่อแม่ควรยึดหลักและกฎเกณฑ์ในบ้านเป็นหลักไม่ควรแหวกกฎ
เกณฑ์เพื่อต ามใจลูก เช่น เมื่อลูกอย ากได้ โทรศัพท์มือถือเพราะเพื่อน มีกันหมดแล้ว ให้คุณพ่อคุณแม่รับฟังว่าลูกรู้สึก อ ย่ างไร
ต้องการมากแค่ไหน หลังจากนั้นให้ย้ำถึงกฎเกณฑ์ว่าเราได้ตกลง กันแล้วว่าลูกจะมีโทรศัพท์มือถือได้เมื่อลูกอยู่ในวัยที่เหมาะสม
เท่านั้น เป็นต้น
อ ย่ ากลัวที่จะให้ลูกผิดพลาดผิดเป็นครู ถ้าลูกไม่รู้จักผิ ดพลาด ผิ ดหวังเลย จะมีแรงจูงใจอะไรให้พย าย าม ทำสิ่งเหล่านั้นให้สำเร็จ
ได้ และลูกจะรู้จักระมัดระวังไม่ให้เกิดความผิ ดพลาด หรือไม่ถ้าไม่เคยทำผิดเลยตัวอ ย่ างเช่น เวลาเล่นเกมกับลูกไม่จำเป็นต้อง
ยอมแพ้และให้ลูกชนะทุกครั้งการให้ลูกรู้จักแพ้บ้าง เพื่อให้ลูกได้พย าย าม ทำให้ตัวเองชนะ ก็เหมือนกับการที่พ่อแม่ต่อขั้นบันได
ให้ลูกได้ปีน ผ่ า นอุปสรรค ต่าง ๆ จนทำสิ่งเหล่านั้นได้สำเร็จนั่นเอง และเมื่อลูกทำสำเร็จได้ด้วยตัวเอง ลูกจะมีความภาคภูมิใจในตัว
เอง Self-Esteem ซึ่งความภาคภูมิใจนี้ จะเป็นผลดีกับชีวิตของลูกในอนาคต
อ ย่ าสรรเสริญเยินยอลูกจน มากเกินไปการชื่นชมลูกเพื่อเป็นกำลังใจให้ลูกเป็นสิ่งสำคัญ แต่การชมจน มากเกิน ไปจนถึงขั้น
สรรเสริญเยินยอ ก็อาจจะเป็นการทำร้ า ยลูกได้ เพร ะเป็นการ ส่งเสริมพฤติก ร ร มที่หลงตัวเองจนเกินพอ ดี หรือบางครั้งอาจจะ
เป็นการ กดดันลูกได้ เ พ ร า ะลูกจะรู้สึกว่าพ่อแม่คาดหวังให้ลูกเป็นแบบนั้นการชมลูก ที่ถูกต้อง ควรเน้นที่การชมถึงความพย าย าม
ของลูก ว่าการที่ลูกทำสิ่งนั้น ๆสำเร็จได้เป็นเพราะลูกพย าย าม เช่น เมื่อลูกสอบได้คะแนนดี แทนที่จะ ชมว่าลูกหัวดี เรียนเก่ง ให้
ลองปรับคำพูดเป็น เป็นเพราะลูกพย าย าม ตั้งใจเรียน ตั้งใจทบทวนอ่ า นหนังสือ เลยทำให้ลูกได้คะแนนดี เป็นต้น
4 รั ก ษ ากฎเกณฑ์ภายในบ้าน
อ ย่ าปล่อยให้ลูกแหวกกฎเกณฑ์ภายในบ้านซ้ำ ๆ เ พ ร า ะจะทำให้ลูกลด ความเคารพในสิทธิของคนอื่น ๆ การตั้งกฎเกณฑ์ภายใน
บ้านของทุกบ้าน เป็นเ พ ร า ะพ่อแม่ต้องการจำลองสถานการณ์ให้ลูกได้รู้จักกฎของการอยู่ ร่วมกันกับคนอื่น ๆ ดังนั้นอ ย่ าปล่อยให้
ลูกทำต ามใจตนเอง เอาตนเองเป็น
ศูนย์กลาง ไม่ทำต ามกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เมื่อต้องอยู่ร่วมกับคนในครอบครัว เ พ ร า ะหากลูกทำจนชิน เมื่อลูกต้องออ กไปอยู่ร่วมกับ
สังคม ลูกจะไม่ได้รับการยอมรับจากคนในสังคมนั่นเองและเมื่อลูกมีอาการร้องไห้งอแงโวยวาย ให้ตั้งสติก่อนปรับพฤติก ร ร มลูก
อ ย่ าใช้อารมณ์ และเน้นใช้ความสม่ำเสมอ นั่นคือ ไม่ให้ความสนใจกับพฤติก ร ร ม
ที่ลูกแสดงออ ก หากอยู่ในที่สาธารณะให้พาไปในที่เงียบสงบ ใช้การอธิบายที่นิ่ง และมั่นคง ไม่แสดงอารมณ์ เมื่อพ่อแม่แสดงออ ก
ถึงวุฒิภาวะที่มั่นคง ลูกจะค่อย ๆ อาการงอแง และโวยวายจะค่อย ๆ ลดลงไป แต่ความรู้สึกถึงความรักจากพ่อแม่ จะยังคงอยู่
ที่มา meokayna deejaiplus