8 สัญลักษณ์ ไฟเตือนบนหน้าปัดรถยนต์ ที่คุณควรรู้
สัญญานไฟเตือนต่างๆ เหล่ านี้ ผู้ใช้รถควรทราบ เพราะ มันบ่งบอกความผิดปกติที่กำลังเกิดขึ้นในของรถคุณ ก่อนที่จะลุกลามกลาย
เป็นปัญหาใหญ่ขึ้น เพื่อให้แก้ไขปัญหา และ ป้องกันได้ทัน เรามาเรียนรู้การสัญญาไฟเตือนต่างๆที่ขึ้นโชว์บนหน้าปัดรถกันดีกว่า
ว่าบ่งบอกถึงอะไรได้บ้างเรียงลำดับตามความสำคัญ สีแดง-สีเหลือง-สีเขียวสำคัญสุดคือสีแดงซึ่งถ้ามีสัญลักษณ์สีแดงโชว์ขึ้นมา
นั้น บ่งบอกถึงความผิดปกติของรถที่คุณไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด
ไฟเตือนสีแดง หมายถึง ต้องหยุดใช้รถทันทีและรีบตรวจสอบความผิดปกติตามรูปไฟเตือนที่ปรากฎในทันทีไฟเตือนสีเหลือง หมาย
ถึง การแจ้งเตือนสามา รถใช้งานรถต่อไปได้ แต่ต้องระมัดระวังในการใช้งานไฟเตือนสีเขียว บอกถึงผู้ขับกำลังใช้งานอุปกรณ์ของ
รถยนต์ที่ไม่เกิดความเ สี ยหายอยู่ทีนี้เรามาลงลึกในรายละเอียดลองดูกันว่าไฟเตือนต่างๆเหล่านี้บอกความหมายว่าอย่ างไรกันบ้าง
1สัญลักษณมีระบุคำว่า ABS อาจหมายถึงระบบเบรค ABS มีปัญหา ให้นำรถเข้าตรวจสอบกับอู่ทันทีครับระบบเบรค กับ ระบบเบรค
ABS นั้นคนละส่วนกันแสดงว่าระบบเบรกยังสามา รถใช้งานได้ปกติอยู่ เพียงแต่เมื่อมีการเหยียบเบรกกะทันหันจนล้อล๊อค ระบบ
ABS อาจจะไม่ทำงานเท่านั้นเองครับABS คือระบบช่วยไม่ให้ล้อล๊อกเวลาเบรคกระทันหัน จนรถเ สี ยการทรงตัวไถลไปตาม
พื้นถนน เป็นการช่วยลดโอกาสที่รถจะพลิกคว่ำ หรือ ไถลตกข้างทาง
2สัญลักษณแบตเตอรี่ ขั้วบวก ขั้วลบ หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นการเตือนแบตเตอรี่เสื่อม แต่จริงๆแล้วหมายถึงไดร์ชาร์จทำงานผิด
ปกติ เช่น ไดร์ชาร์จเ สี ย ไดร์ชาร์จไม่ทำงาน ไม่ชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ หรือ ไม่มีการจ่ายไฟเข้าใช้งานในระบบรถยนต์ เมื่อใช้ไป
เรื่อยๆอาจทำให้ระบบไฟฟ้าทั้งหมดในรถยนต์ไม่ทำงาน
3สัญลักษณรูปตะเกียงน้ำมันมีน้ำหยด มักเกิดจาก น้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์มีต่ำมากจนไม่สามา รถไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ได้
อ ย่ างทั่วถึง หรือถ้าน้ำมันเครื่องแห้งมากๆ หากฝืนใช้รถต่อไปอาจทำให้เครื่องยนต์มีปัญหาถึงขั้นพังได้เลย หรือ ถ้าเช็คแล้วน้ำมัน
เครื่องยังอยู่ในระดับปกติ แต่มีไฟโชว์ขึ้นมาก็เป็นไปได้ว่า ปั๊มน้ำมันเครื่องอาจมีปัญหา ทำให้ไม่สามา รถปั้มส่งน้ำมันเครื่องไปหล่อ
เลี้ยงส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ได้อ ย่ างทั่ววถึง
4สัญลักษณ์ถุงลมนิรภั ย ปกติสัญลักษณ์นี้จะขึ้นมาค้างประมาณ 5 วินาทีหลังสตาร์ทรถ เป็นการเช็คถุงลมนิร ภั ยของระบบตัวรถ
ถ้าสัญลักษณ์นี้แสดงขึ้นมาค้างหลังจากสตาร์ทเครื่องไปแล้วไม่ยอมดับ ก็ควรเอารถเข้าอู่หรือศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบการทำงาน
ได้เลยครับจำเป็นอ ย่ างมาก เพราะ หากเกิดเหตุ ฉุ ก เ ฉิ นขึ้นมาจริงๆถุงลมนิรภั ยอาจจะไม่ทำงาน
5เครื่องหมายตกใจกลางวงกลม หรือ เบรค สัญลักษณ์เบรกนี้ ส่วนใหญ่จะขึ้นใน 2 กรณีคือ เมื่อมีการดึงเบรกมือ หรือลดเบรกมือ
ยังไม่สุด สัญลักษณ์นี้ก็จะติดขึ้นมา แต่ถ้าลดเบรกมือแล้วยังไม่ดับ คงต้องตรวจสอบระบบเบรก ซึ่งอ ย่ างแรกที่ต้องดูคือระดับน้ำมัน
เบรก เพราะส่วนใหญ่แล้วสัญลักษณ์จะแจ้งเมื่อน้ำมันเบรกลดลงต่ำกว่าระดับปกติครับ แต่สำหรับบางรุ่นจะแยกกันระหว่างระบบเบรก
กับเบรกมือไว้แยกจากกัน โดยระบบเบรกจะเป็นเครื่องหมายตกใจ ส่วนเบรกมือ จะเป็นตัว P ให้ลองอ่านที่คู่มือประจำรถดูก่อนครับ
6รูปปรอทมีขีดระดับน้ำ เป็นการเตือนเรื่องความผิดปกติของระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ เช่น พัดลมหม้อน้ำไม่ทำงาน
น้ำย าหล่ อเย็นขาด หรือ รั่ว หากฝืนใช้รถต่อ อาจทำให้เกิดการ Over Heatอุณหภูมิในเครื่องยนต์ร้อนสูงเกินขีดจำกั ดที่
เครื่องยนต์จะสามา รถทำงานต่อได้ซึ่งสร้างความเ สี ยหายให้เครื่องยนต์ อ ย่ างมาก
7รูปตู้จ่ายน้ำมัน แสดงมาเมื่อไหร่แสดงว่าน้ำมันในถังอยู่ในระดับต่ำแล้ว ให้เติมน้ำมันก่อนที่น้ำมันจะหมด โดยส่วนใหญ่ที่พบ
น้ำมันจะเหลืออยู่ในถังอีกประมาณ 10-15% ของความจุถังถึงจะเริ่มแสดงขึ้นมา โดยจะวิ่งต่อได้อีกประมาณ 40-100 กิโลเมตร
ขึ้นอยู่ว่าเป็นรถรุ่นไหนครับเพิ่มเติมข้อมู ล สัญลักษณ์รูป สามเหลี่ยมเล็กๆ ด้านข้างถังนั้น ช่วยบ่งบอกว่าฝาถังน้ำมันอยู่ด้านไหน
เวลาเข้าปั้มเติมน้ำมันจะได้จอดถูกฝั่งหัวจ่ายน้ำมัน
8รูปตู้จ่ายน้ำมันแต่มีจุดๆอยู่ด้านล่ าง เมื่อแสดงขึ้นมา สามาถบ่งบอกว่ากรองน้ำมันมีปัญหา อาจเป็นเพราะกรองน้ำมันตัน หรือ
มีน้ำผสมอยู่ในน้ำมันมาก 8สัญญานไฟเตือนที่ยกตัวอย่ างมานั้น เป็นสัญญานไฟเตือนที่ผู้ใช้รถส่วนใหญ่มีโอกาสประสบพบเจอได้
มากที่สุด ซึ่งก็มีอีกหลายสัญญานเตือนที่เราไม่ได้นำมาอธิบายรายละเอียด เพราะในรถบางรุ่นอาจมีสัญลักษณ์พิเศษต่างๆที่เราไม่
ได้ระบุไว้ ซึ่งท่านสามา ร ถศึกษาเพิ่มเติมได้ในคู่มือรถ แต่ให้สังเกตุไฟเตือนถ้ามีสัญลักษณ์เตือนแล้วเราไม่มั่นใจ ให้รีบนำรถไปให้
ช่างเช็คเพื่อความปลอด ภั ยจะดีกว่า
ขอขอบคุณที่มา bitcoretech postkidde