การปลูกอะโวคาโด ข้างรั้วบ้าน ไว้กินเอง
เพื่อนๆคนไหนใครบ้างที่ชอบทานอะโวคาโด สำหรับคนที่ชอบทานกันเป็นประจำอย ากจะปลูกไว้ทานเองสักต้น เราเลยจะพามาดูวิ ธีปลูกกัน จะเป็นอ ย่ างไรมีวิ ธีอย่ างไรเราไปดูกันอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มาก ๆ
ทานแล้วอิ่มท้อง สายสุ ข ภ า พมักจะนิยมทานกัน สำหรับใครที่ชอบและอย ากจะมีไว้เป็นของตัวเองสักต้นก็ลองปลูกกันได้ เพียงแค่ 1 ต้นก็ให้ผลผลิตดีเหมือนกัน วันนี้เรามีไ อ เ ดี ยการปลูกมาแนะนำ
ซึ่งสำคัญเลยคือต้องเตรียมดินให้ดี ต้นกล้าต้องแข็งแ ร ง จะทำให้รอดได้ง่าย โตอย่ างสมบูรณ์ วัสดุคลุมดินก็ต้องใช้เพื่อช่วยรัก ษาความชื้น รวมถึงหาอะไรมาพลางแสงด้วย มาดูขั้นตอนการปลูกกันได้เลย
ก า ร ปลูกอะโวคาโด
ดินจะต้องเตรียมให้พร้อมก่อนเลย แล้วนำต้นกล้ามาปลูกกลบโคนให้เรียบร้อย แล้วรดน้ำให้ชุ่มได้เลย จากนั้นหาอะไรมาคลุมดินไว้ด้วย ปักไม้หลักยึดป้องกันการโยกล้มพร้อมหาแสลน มาพลางแสง
สิ่งสำคัญเลยคือน้ำจะต้องไม่ข า ดมีความสม่ำเสมอทุกวันจนกว่าจะตั้งต้นได้ น้ำนั้นให้ทุก 3-4 วัน ในช่วงระยะ 1 เดือน จะให้ประมาณ 20-40 ลิตร-ต้น แต่ถ้าหากไม่มีฝนจะให้ถี่กว่านี้ได้ ช่วงหน้าร้อนนั้นให้น้ำ 40-60 ลิตร-ต้น โดยให้ทุกสัปดาห์ไปจนถึงอายุ 1 ปีเลย
ก า ร ให้ ปุ๋ ย ต้นอะโวคาโด
พอหลังจากปลูกไปได้ประมาณ 1 เดือน จะใช้เป็นปุ๋ ย ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแตสเซียม โดยจะให้ในอัตรา 3-1-1 หรือจะให้เป็นปุ๋ ย 15-15-15 ผสมกับยูเรียในอัตราส่วน 1-1 แล้วคลุกให้เข้ากันเลย
จากนั้นใส่ไป 200 กรัม-ต้น ให้แบ่งใส่ ครั้ง-ปี หรือทุก 3 เดือน แต่พอเข้าปีที่ 2 นั้นปุ๋ ยจะปรับเป็น 300 กรัม แล้วแบ่งใส่ 4 ครั้ง-ปี พออะโวคาโดอายุได้ 3 ปี ก็จะมีผลผลิตให้เราได้เก็บแล้ว
ซึ่งเราก็เพิ่มปริมาณปุ๋ ยเพิ่มไปอีกพอเข้าระยะต้นปีที่ 3 ปุ๋ ยก็ให้ใส่เหมือนปีที่ 2 เลย แต่ว่าปริมาณปุ๋ ยนั้นเพิ่มเป็นต้นละ 400 กรัม แล้วแบ่งใส่ 2 ครั้ง ในช่วงต้นหน้าฝนกับกลางฝน แต่พอปล า ยฝนแล้วใช้เป็น 8-24 -24 หรือ 9-24-24
สำหรับดินร่วนปนทราย แต่ถ้าเป็นดินเหนียวให้ใช้เป็นสู ต ร 12-24-12 ในอัตรา 500 กรัม-ต้น จะช่วยบำรุงดอ กและผล โดยใส่ในอัตรา 3-1-1 ผลจะสมบูรณ์มากขึ้น
ให้ใช้ยูเรียผสม 15-15-15 อัตรา 1-1 เพิ่มอีก 500 กรัม-ต้น ส่วนปีต่อ ๆ ไปนั้นจะต้องวัดระยะจากโคนต้นไปรอบทรงพุ่มว่ากว้างเท่าไหร่ จะทำให้คำนวณปริมาณการให้ปุ๋ ยได้เหมาะสม
ก า ร ให้น้ำต้นอะโวคาโด
ในส่วนของการให้น้ำนั้น ช่วงปลูกใหม่ ๆ จะต้องสม่ำเสมอเพื่อให้รากดูดซึมไปเลี้ยงได้ทั่วถึง และดินจะต้องมีความชุ่มชื้นแต่ว่าจะต้องไม่แฉะ ไม่มีน้ำขัง ในช่วงปลูกใหม่นั้นอะโวคาโดต้องการน้ำ 15 ลิตร-ต้น
ถึงจะเพียงพอ แต่ถ้าหากให้แบบวันเว้นวันก็ให้เป็น 30 ลิตร-ต้น ถึงจะพอ ส่วนระบบน้ำนั้นเลือ กต ามสะดวกเลยจะเป็นน้ำหยดหรือสปริงเกอร์ก็ได้ แต่พอถึงระยะการออ กดอ กให้งดน้ำก่อน รอให้ช่อ ด อ กเจริญเติบโตแล้วค่อยให้น้ำปกติ
ก า รจัดทรงตัดแต่งกิ่งและการเก็บเกี่ยว
ต้นอะโวคาโดนั้นไม่ต้องทำการแต่งทรงหรือแต่งกิ่งก็ได้ หากเป็นช่วงที่มีการออ กด อ ก ติดผล ก็อาจตัดแต่งนิดหน่อย เหมือนทำเพื่อเปลี่ยนลักษณะทรงพุ่มเท่านั้นก็พอ ซึ่งก็อยู่ที่สายพันธุ์อะโวคาโดด้วย ถ้าต้นสูงไปเก็บย ากก็ตัดแต่งได้เวลาจะเก็บเกี่ยวนั้นก็ดูว่าเยื่อหุ้มเมล็ดเป็นสีอะไร
ถ้าหากเป็นสีน้ำต าลแล้วก็แปลว่าเหมาะสำหรับเก็บเกี่ยวแล้ว เวลาเก็บนั้นให้เอาขั้วติดผลมาด้วย ร ะ วั งอ ย่ าให้ขั้วหลุดเ พ ร า ะอาจทำให้ผลเสียห า ยได้ง่ายเวลาเก็บนั้นถ้าสูงจะต้องหาอะไรมาช่วยเพื่อให้ปีนขึ้นไปเก็บเกี่ยวได้และหาภาชนะมารองใส่แบบที่มีฟองน้ำรองด้วยป้องกันความเสียห า ยและเพื่อให้ต้นอะโวคาโดที่เราปลูกนั้น
สมบูรณ์แข็งแ ร ง หาสู ต รบำรุงมาใช้ด้วยก็ได้แต่เน้นแบบที่เป็นอินทรีย์ก็ได้ การปลูกอะโวคาโดนั้นอาจใช้เวลาสักหน่อยกว่าจะเห็นผลผลิตแต่ว่าถ้าปลูกรอ ดยังไงก็ได้ผลสำเร็จแน่นอน
ขอขอบคุณที่มา kasetchaoban sabidee