
เรื่องที่ควรรู้ ในการขอไฟฟ้า ไปใช้ในการเกษตร
ไฟเกษตร คือ การนำไฟฟ้ามา ใช้ภายในสวนเพื่อ การทำการเกษตร
ซึ่งเราสามารถ เข้าร่วมโครงการได้โดยต้องมีข้ อแม้ 9 ข้ อ ดังนี้
1 การที่เราจะไปขอไฟเกษตร เราต้องได้รับการรับรองจากองค์กรณ์
การปกครองส่วนท้องถิ่น ยืนยันให้ก่อนว่าสถานที่ที่เรา จะขอไม่ได้อยู่ในเขตหวงห้าม
2 สวนจะ ต้องมีทางรถ วิ่งเข้าออกได้
3 ทางเข้า สวนจะต้อง ปักเสาไฟได้
4 ต้องได้รับการ ยืนยันขนาดพื้นที่ ว่าเป็นที่ของเรา
และได้รับ อนุญาตให้ทำ การเกษตรได้
5 ต้องระบุ แหล่งน้ำได้ว่าจะใช้จาก แหล่งน้ำใด
6 ผู้ขอต้องมี เอก ส า ร สิทธิ์การครอบครองที่ดิน หรือครอบครอง
เพื่อทำกิน และต้องไม่เป็นเจ้าของ โดยเอกชนรายใหญ่
7 ต้องเป็น เกษตรกร ร า ย ย่อยเท่านั้น ที่ขอติดตั้งมิเตอร์
ขนาดไม่เกิน 15 45 แอมป์ ต่อ 1 ร า ย
8 ต้องสามารถ ออ กใบแจ้งหนี้จากมิเตอร์ ไฟเครื่องที่ 2 โดยสามารถ
แจ้งเก็บเงินไป ที่มิเตอร์เครื่องที่ 1 ได้ โดยทั้ง 2 มิเตอร์นี้
ต้องอยู่ในเขต พื้นที่การ ไฟฟ้าเดียวกัน
9 มีค่าใช้จ่ายในการ ข ย า ย เขต เฉลี่ยต่อร า ยไม่เกิน 50,000 บ า ท
โดยทาง PEA จะรับผิ ดชอบในการ จ่ายค่า ข ย า ย เขต
สำหรับอัตรา ค่ า ธรรมเนียมการยื่นขอมิเตอร์ไฟฟ้า
5 (15) แอมป์ ค่ า ธรรมเนียม 1,000 บ าท
15 (45) แอมป์ 1 เ ฟ ส ค่ า ธรรมเนียม 6,450 บ าท
15 (45) แอมป์ 3 เ ฟ ส ค่ า ธรรมเนียม 21,350 บ าท
ตัว อ ย่ า ง ขั้ น ต อ น และ วิ ธีการขอไฟฟ้าลงพื้นที่ เพื่อทำเกษตรขั้ น ต อ น
และกระบวนการที่จะ ขอให้มีไฟเกษตร เข้ามาในพื้นที่ก็คือ
เริ่มจากมีความตั้งใจ ที่จะทำฟาร์มเกษตร อิ น ท รี ย์ ของตนเอง
และได้ลงมือทำ อ ย่ า ง ต่อเนื่องจน ได้พืช พั น ธุ์ หล า ยชนิดแล้ว
ส่วนระบบน้ำก็ใช้การเจาะน้ำ บ า ด า ล และดูดน้ำขึ้น มาจากลำห้วยที่เริ่มลงตัว
โดยมีระยะทาง จากบ้านถึงไร่ห่างไกล กันประมาณ 10 กม. และการเดินทาง
ก็ค่อนข้างลำบากจึงเลือ ก ป ลู ก ผลไม้ก่อนแทน ที่จะปลูกพืขผัก เพราะไม่ต้องดูแลทุกวัน
ด้วยเรื่องราวทั้งหมดนี้ ทำให้เจ้าของเรื่องวางแผน สร้างบ้านในพื้นที่ เพื่อที่ใน
ตอนเช้าจะได้ดูแล พืชผักได้ อ ย่ า ง สะดวกใกล้ชิด เป็นที่มาของการขอไฟฟ้า
เข้ามาใช้ โดยใน การขอไฟฟ้า เ ก ษ ต ร ในพื้นที่ของ ตนนั้น มีขั้ น ต อ นดังนี้
ที่พักอาศัย ต้องมีบ้านเลขที่ หากยังไม่มีก็ต้องไปขอบ้าน เลขที่ให้แน่นอนก่อน
หากการขอเลข ที่บ้านเลขที่นั้นอยู่ ไกลจากหมู่บ้าน ก็จะต้องสร้าง
เ พิ ง พัก หรือสร้างเป็นสิ่ง ปลูกสร้างถาวรขึ้น
โดยสิ่งต่อไปที่จะต้อง ส ร้ า ง คู่กันไปกับบ้านก็ คือห้องน้ำ เพราะการมีห้องน้ำ
ในพื้นที่นั่นแสดง ถึงการอยู่อาศัย อ ย่ า ง ถาวร ดังนั้นแล้ว
การสร้าง ห้ อ ง น้ำจึงจำเป็นสำหรับ การขอเลขที่บ้าน
เมื่อเราสร้างเพิ่งพัก หรือบ้านพักเรียบร้อยแล้ว ให้เราถ่ายภาพที่พัก
และห้องน้ำ ไปให้กับ อ น า มั ย ในพื้นที่ ซึ่งมาตรวจพร้อมกับ
ทำการเซ็นต์เอก ส า ร รับรองการเป็นอยู่ ที่ถูกสุขลักษณะ
จากนั้นให้นำหนังสือ ยื่นกับผู้ใหญ่บ้านในการ ขอบ้านเลขที่ จากนั้น
ให้นำไป ยื่ น ต่อที่อำเภอ เพื่อลงทะเบียน ขอสำเนาทะเบียนบ้าน
เท่านี้เราก็จะ ได้ทะเบียนบ้าน พ ร้ อ ม กับเลขที่บ้าน มา
เอก ส า ร ที่ต้องเตรียม
1 สำเนาโฉนดที่ดิน
2 สำเนา บั ต ร ป ร ะ ช า ช น
3 สำเนา ท ะ เ บี ย น บ้ า น
4 ใบรับรอง ที่ได้จาก อ ง ค์ ก ร ปกครองส่วนท้องถิ่น
หรือหน่วยงาน ร า ช ก า ร
ข้อควรรู้
ในการขอไฟเกษตร ต้องดูแนวโน้มในพื้นที่ด้วยว่าจะ มีไฟฟ้าเข้ามาด้วยหรือไม่
และต้องมีบ้าน อยู่ในโซนเดียวกัน ตั้งแต่ 3 หลังขึ้นไป
สรุป
การขอไฟเกษตร มาลงในพื้นที่ ขอบ้านเลขที่โดย จะได้สำเนาทะเบียนบ้าน
ยื่นเรื่องที่องค์การปกครอง ส่วนท้องถิ่น โดยรวมกันตั้งแต่ 3 หลังขึ้นไป
ยื่นเรื่องทิ้งไว้ ที่องค์การไฟฟ้าในอำเภอ รอความคืบหน้า อ ย่ า ลืมสอบถาม
ความเป็นไปได้ที่จะ มีไฟฟ้าเข้ามา ในพื้นที่ด้วยนะ ในพื้นที่นั้น ๆ
จะต้องมีแนวโน้ว ที่จะมีไฟฟ้า เข้าถึงด้วยนะ
ขอขอบคุณที่มา krustory, pooddee, sabaidee, sangkomonline