(ข้อคิดเตือนสติได้ดีมาก) อาแปะขายไข่ อย่ามัวคิดแต่จะเอาชนะ
มีอาแปะคนหนึ่ง มีแผงขายไข่ไก่ฟองละ 2 บาทมานานนับสิบปีแล้ว มีลูกค้าประจำมากมายแวะเวียนมามากมาย เพราะ ทั้งตลาดมี
ร้านขายไข่อยู่แผงเดียว อยู่มาวันหนึ่ง อาหมวยคนหนึ่งเห็นว่าอาแปะขายไข่ไก่รายได้ดี จึงมีความคิดจะขายบ้าง อาหมวยได้ตั้งแผง
ขายไข่ไก่ฝั่งตรงข้ามอาแป่ะโดยตั้งราคาขายฟองละ 1บาท เพื่อตัดราคาอาแปะ เป็นดังที่คาดไว้ ลูกค้าแผงอาแปะหลั่งไหลมาซื้อไข่
ไก่แผงอาหมวยล้นหลาม ทำให้อาแปะเริ่มรู้สึกว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปต้องแย่แน่ๆ จึงลดราคาไข่ไก่ลงเหลือฟองล่ะ 1 บาทเท่าอาหมวย
แล้วทุกอ ย่ า ง ก็เป็นไปตามที่อาแปะคิด
ลูกค้าแผงอาหมวยก็เริ่มหันมาซื้ออาแป่ะมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ราคาจะเท่ากันแต่ก็เชื่อถือคุณภาพไข่ไก่ที่อาแปะขายมานาน อาหมวย
เห็นดังนั้น ก็ไม่ยอม จึงตัดสินใจลดราคาไข่ไก่ ตั้งใจว่าคราวนี้จะไม่ให้อาแปะลดราคาแข่งได้เลย จึงตัดสินใจลดราคาจาก 1 บาท
เหลือเพียง 25 สตางค์เท่านั้น ลูกค้าจากแผงอาแป่ะและหลายๆ ที่แห่มาซื้อไข่ไก่อาหมวยกันหนาตา อาหมวยรู้สึก กระหยิ่มในใจยิ่ง
นักแล้วคิดตามว่า คอยดูซิ อาแปะจะลดราคาสู้ไปอีกได้ไหม จนเวลาผ่ า น ไปวันแล้ววันเล่านานเป็นเดือน อาแป่ะยังคงขายไข่ไก่
ฟอง ละ 1 บาทอยู่ มีลูกค้าบ้างประปรายแต่เรื่อยๆ ฝั่งแผงอาหมวยก็เริ่มรู้สึกว่าขาดทุน ฟองละ 25 สตางค์แทบไม่เห็นกำไร แต่ก็เกิด
ความ ประหลาดใจยิ่งนักว่าทำไมอาแป่ะ จึงยังขายฟองละ 1 บาท ทำไมไม่แข่งลดราคากันอีก แล้วอยู่ได้ยังไงในเมื่อลูกค้าอยู่ที่แผง
อาหมวยหมด วันหนึ่งอาหมวยข้องใจทนไม่ไหว จึงตัดสินใจเดินไปถามอาแปะด้วยความสงสัยว่า อาหมวย อาแป่ะ ลื้อทำไมไม่ลด
ราคาแข่งกับอัว อีกหล่ะ ในเมื่อเราแข่งกันมาตลอด มาแข่งกันต่อสิแล้วลื้ออยู่ได้ยังไงขายฟองละ 1 บาท
อาแป่ะ ชำเลืองมองอาหมวยเล็กน้อยแล้วพูดว่า อั๊วอยู่ได้สิ ก็อั๊วซื้อไข่ไก่ลื้อมาขายไง
เพราะมัวแต่ต้องการเอาชนะ จนลืมไปว่าเรานั้นแพ้แม้แต่ความคิด มุ่งแต่จะชนะให้ได้ จนลืมมองย้อนหลังที่ผ่ า น มาว่าเราพลาด
เพราะ สิ่งใด ไม่มีใครทำตัวเราให้พ่ายแพ้ ทุก อ ย่ า ง ล้วนเกิดจากตนเองทั้งนั้น
ขอบคุณบทความแนวคิดดีๆ จาก , ตะเกียงส่องใจ,bitcoretech