7 เรื่องส่วนตัว ไม่ต้องไปเล่าให้ใครฟัง มันจะไม่ดีกับตัวคุณ
1 ความสำเร็จเล็กๆน้อยๆของคุณ
ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องโอ้อวดไลฟ์สไตล์ส่วนตัว มันไม่ใช่เรื่องที่น่าคุยโว ว่าตอนนี้น้ำหนักฉันลงไปแล้วกี่กิโลกรัมหรือเอาชนะการตื่นสายได้แล้ว หรือคุณสามารถเลิกอบายมุขได้แล้ว เพราะถ้าคุณละแล้วซึ่งความสุขทางโลกก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมาพูดถึงเรื่องอะไรแบบนี้อีก ไม่มีประโยชน์ที่จะแสดงตัวตนหรืออัตตาใดๆเพราะถ้าคุณพึงพอใจในตัวเอง ก็จะไม่ต้องการคำป้อยอสรรเสริญจากใครอีก
2 เรื่องราวที่ทำให้คุณไม่พอใจ
ก า ร พร่ำบ่นกับเรื่องแย่ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นเลย เช่นเดียวกับที่คนอื่นทำเสื้อผ้าคุณเลอะแล้วคุณไม่พอใจแถมยังพร่ำบ่นซ้ำ ๆ นั่นแปลว่าใจคุณก็เลอะไปด้วยคนที่เก็บทุกสิ่งทุกอย่ างที่ขุ่นข้องหมองใจไว้กับตัว ก็ไม่ต่างกับคนที่ใส่รองเท้าย่ำเข้าบ้าน บ้านสกปรกเช่นไร ใจก็สกปรกเช่นนั้น ชีวิตคนเรามันสั้นนัก จะมาเสียเวลาหงุดหงิดพร่ำบ่นกันไปอีกทำไม
3 แผนการอันยิ่งใหญ่ที่คุณต้องทำ เพื่อก้าวไปสู่จุดสูงสุดในชีวิต
จงเก็บมันไว้เป็นความลับ จนกว่าคุณจะจัดการมันสำเร็จเรียบร้อย เพราะในทุก ๆ แผนการ มักมีจุดอ่อนซ่อนอยู่ซึ่งคุณอาจไม่รู้หากมีคนเห็นจุดบอดนั้น และหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น อาจทำให้คุณท้อแท้กับอุปสรรคตรงหน้าก็เป็นได้
4 ความดีที่เคยทำ
การทำดีไม่จำเป็นต้องพูดเอาหน้าไม่ต้องทวงบุญคุณการโอ้อวดคุณงามความดีที่ตนทำ จะทำให้คุณเป็นคนเย่อหยิ่งหากคุณยังรู้สึกว่าต้องพูดก็ควรกลับมาทบทวนดูว่าคุณทำความดีเพื่ออะไรกันแน่ คุณทำด้วยความบริสุทธิ์ใจหรือเพียงเพราะอย ากให้คนอื่นยกย่อง
5 ปัญหาครอบครัว
ยิ่งคนอื่นรู้ความลับในครอบครัวเราน้อยเท่าไหร่ ครอบครัวของเราก็ยิ่งเข้มแข็งขึ้นมากเท่านั้น การจะแก้ไขปัญหาในครอบครัวได้ต้องอาศัยความรักและความเข้าใจ ยิ่งคุณนำเรื่องราวในครอบครัวไปบ่นกับผู้อื่น ก็จะยิ่งทำให้แก้ปัญหาได้ ย ากขึ้น
6 เรื่องของชีวิตและจักรวาล
ไม่จำเป็นต้องพูดคุย แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความรู้ด้านชีวิตและจักรวาล เพราะนั่นคือการตีความของเราเพียงคนเดียว มันยังไม่ใช่ความจริงแท้การเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้จะถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์ เกิดการเอาชนะกันไม่จบสิ้น ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ
ขอขอบคุณที่มา the-wayoflife