หากโดนใบสั่ง จากกล้องตรวจจับความเร็ว จำไว้นะว่าต้องทำแบบนี้
หลายๆครั้งเวลาเราขับรถทางไกล หรือ ขึ้นทางด่วน ก็มักจะเจอกล้องตรวจจับความเร็วแบบนี้ให้เห็นอยู่เป็นประจำ
ซึ่งใครที่ฝ่าฝืน หรือ ใช้ความเร็วเกินที่กำหนดไว้ จะถูกถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ก็ต้องโดนเสียค่าปรับตามกฎหมายอยู่แล้ว
ซึ่งในช่วงวันแรกที่มีกฎหมายถูกจับตรงนี้เกิดขึ้น มีผู้กระทำความผิดมากกว่า 1600 ราย ผู้กระทำความผิดจะต้องไป
ชําระค่าปรับภายใน 7 วัน หากไม่ไปตามเวลาที่กำหนดเจ้าหน้าที่จะส่งจดหมายไปยังที่อยู่และจะต้องชำระค่าปรับ
ภายใน 30 วัน ซึ่งถ้าหากไม่ดำเนินการ ทางเจ้าหน้าที่จะส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งทางบก เพื่อทำการงดเว้นต่อ
ทะเบียนรถเป็นการชั่วคราว และเมื่อเดินทางไปชำระค่าปรับจะต้องจ่ายเงินค่าเสียค่าปรับช้าอีก 1,000 บาท และค่า
ปรับตามใบสั่งซึ่งจะสอดรับกับการแก้ไขกฎหมายใบสั่งใหม่ด้วยนั้น
ล่าสุด นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายคนดังในโลกโซเชียลได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า
เห็นความพยายามของตำรวจ ที่บังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเข้มแข็งเหลือเกิน ผมเห็นด้วยกับการใช้กล้องและ
เทคโนโลยีแทนเจ้าพนักงานจราจร บางอย่าง แก้ไขการใช้ดุลยพินิจที่ไม่ถูกต้อง และการโต้เถียงของประชาชนได้
เพราะกล้องไม่โกหก ยกเว้นตำรวจส่งหมายใบสั่งผิดบ้าน แต่การออกมาตรการบังคับให้ไปชำระค่าปรับภายใน 7 วัน
หากล่าช้าจะต้องชำระค่าปรับล่าช้าเพิ่ม 1,000 บาท และ อายัดทะเบียนไว้ สำหรับผม ผิดก็ว่าไปตามผิด ผิดก็ต้อง
มีหน้าที่จ่ายค่าปรับตามกฎหมาย แต่ไม่เห็นด้วยกับการบังคับให้ชำระค่าปรับล่าช้าอีก 1,000 บาท รวม 1,500 บาท
มันโหดร้ายเกินไปไหมครับ
แต่ตำรวจได้ค่าปรับ และเปอร์เซ็นต์ค่าปรับเพิ่มอีก 3 เท่า จาก 500 เป็น 1,500 ภายในเวลา 30 วัน มันจะเกินไปไหม
ครับ 1,500 ซื้อกับข้าวกินได้ทั้งครอบครัวตั้งหลายมื้อ ท่านจะรีบใช้เงินไปไหน ใจเย็นๆ ให้เวลาชาวบ้านหายใจบ้าง
ถ้าสมมุติว่า ชาวบ้านที่โดนใบสั่งทั้ง 1,600 คน ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยวิธีการทางกฎหมาย และใช้สิทธิทางศาลบ้าง
แทนที่จะยอมชำระค่าปรับ 500 หรือ 1,500 บาทในกรณีล่าช้า รวมใจรวมตัวกันเดินเข้า โรงพักแจ้งต่อพนักงานสอบ
สวนว่า ไม่ชำระค่าปรับที่โรงพัก แต่จะไปสู้ในชั้นศาล หรือชำระค่าปรับที่ศาลแทน ถ้ามีสักเดือน ละ 1,000 คน งานคง
ล้นมือตำรวจ และพนักงานอัยการแน่นอน ลองดูไหมครับ ความผิดลหุโทษ ไม่ต้องประกันตัว เดินถือใบสั่งที่ตำรวจส่ง
ไปให้ทางไปรษณีย์ แล้วบอกพนักงานสอบสวนว่า ขอไปต่อสู้ (ในกรณีไม่ผิด) หรือไปชำระค่าปรับที่ศาลแทน
เมื่อไปถึงศาล ถ้าผิดก็รับสารภาพ ศาลก็ปรับ ครึ่งหนึ่งของ 500 บาท คงเหลือ จ่ายค่าปรับที่ศาลเพียง 250 บาท
ไม่เสียค่าปรับล่าช้า ไม่ถูกอายัดทะเบียน เพราะถือว่าชำระค่าปรับตามคำพิพากษาแล้ว และที่สำคัญเงินค่าปรับใน
ศาล ตำรวจจะไม่ได้เปอร์เซ็นแม้แต่สตางค์แดงเดียว อย่าบีบบังคับประชาชนเกินไปนะครับ ผมเชื่อว่าถ้ามีคนใช้วิธีนี้
ตำรวจนั่นแหละครับที่จะเหนื่อยจนไม่ต้องทำงานอย่างอื่น เผลอๆ คดีขาดอายุความเพราะฟ้องไม่ทัน เสียงบ
ประมาณซื้อกล้อง และงบประมาณพิมพ์ใบสั่งเปล่าๆ
Cr ขอบคุณแหล่งที่มาจาก : Chokchai Superluck