ข้อคิดสำหรับคนที่อยากจะ ลาออกจากงาน ในช่วงนี้
1 สาวออฟฟิศผู้บึกบึนและอดทนคนหนึ่งที่เพิ่งลาออกจาก
งานได้ไม่นาน และตอนนี้ยังไม่ได้งานใหม่ สาเหตุของการออกจากงานเธอคนนี้บอกว่า เพราะด้วยเนื้องานที่ทำ
และเงินเดือนไม่สมดุลกัน และงานค่อนข้างมีความกดดันพอสมควร เพราะผู้บริหารเป็นคนเจ้าระเบียบ จุกจิก หยุมหยิม
จะมีกฎให้พนักงาน ต้องทำตามประหนึ่งว่าอยู่โรงเรียน ซึ่งตัวเธอนั้นต้องดูแลเรื่องเหล่านี้ และแน่นอนว่ากลายเป็น
มีเป็นหากับพนักงานด้วยกัน เพราะส่วนใหญ่ พนักงานชอบ แหกกฎทำให้โดนนินทา และไม่ให้ความร่วมมือ
อีกทั้งภาวะกดดันสูง ทำให้เครียดทุกวัน เหนื่อยและรู้สึกว่าไม่คุ้มกับ เงินเดือน ดังนั้น การลาออกไปเอาดาบหน้า
จึงเป็นทางออกที่เธอ เลือกแม้ว่าจะยังไม่งานรองรับแต่ อ ย่ า ง น้อยการออกมามันทำให้สบายใจไม่เครียด
ซึ่งตอนนี้ก็ได้รับเงินชดเชย ของประกันสังคมพร้อมๆ กับทำการลงชื่อหางานใหม่ ซึ่งเพิ่ง ผ่ า น มาได้
เดือนเดียวแต่เธอเชื่อว่าอี กไม่ช้าจะได้งานเพราะมีหลายแห่ง ติ ด ต่อมาเรียกสัมภาษณ์บ้างแล้ว
2 หนุ่มไอทีที่คิดว่าการทำงานฟรีแลนซ์มันทำให้ถึงเป้าหมาย
ทางการเงินได้มากกว่าการนั่งในบริษัทเล็กๆ หนุ่มคนนี้มีความรู้ทางด้าน การซ่อมคอมการเขียนโปรแกรม
การจัดการระบบต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ จบใหม่ไฟแรง และคิดว่าการทำงานในบริษัท เพื่อเก็บทุนไว้ทำกิจการเล็กๆ
เป็นของตัวเอง และหาประสบการณ์มันไม่ สนุกเสียแล้ว อีก อ ย่ า ง งานไอทีในบริษัท ที่ทำมันก็ไม่ได้มีอะไร
มากมายแถมต้อง ทำงานหน้าที่อื่นๆด้วยเพราะเป็นบริษัทเล็กๆ งานสายไอที โดยตรงไม่ค่อย มีเท่าไหร่แต่ที่เปิดรับไอที
เพราะแค่เอาไว้ช่วยแก้ปัญหา เฉพาะหน้าเท่านั้นแต่ มอบหมายงานอื่นๆให้ทำ ซึ่งเขารู้สึกว่าตอนแรกมันก็ดีคุ้ม
กับเงินเดือนที่ได้รับแต่อยู่ๆ ไปมันเหมือนความรู้จะหายจึงเริ่ม รับงานนอกทำวันหยุด ซึ่งทำแล้วมันเห็นเงิน
และได้ท้าทายความรู้ที่เรียนมา ดังนั้น เขาจึงคิดว่าออกมาเป็นฟรีแลนซ์หางานสายนี้ โดยตรงน่าจะดีกับเขาที่สุด
รายได้บางงานได้มากกว่าเงินเดือนที่ทำ และนั้นมันทำให้เขาคิดว่ามันได้ทั้ง อิสระทางเวลาและการเงิน
3 ลุง ย า ม หน้าอพาทเม้นท์ที่ตั้งเป้าว่าสิ้นปีนี้จะกลับบ้านต่างจังหวัด
หลังจากเข้ามาทำงาน ในเมืองหลวงนานหลายปี ทำตั้งแต่เป็น ก ร ร ม กรก่อสร้าง พนักงานโรงงาน สุดท้าย
มาจบที่อาชีพ ย า ม หรือ รปภ. เหตุผลที่เปลี่ยนงานหลากหลาย เพร าะพิษเศรษฐกิจ และรายได้ที่ไม่คุ้มเหนื่อย
ทำงานหนักแต่ได้ค่าแรงรายวัน ตั้งแต่งาน ก ร ร ม กรแบกหาม โดนหักวันหยุด หักโน่นนี่นั่น ทำให้หางานใหม่
จนได้ทำงานโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งก็ทำมาหลายปีมีเงินเก็บส่งทางบ้านมาก พอสมควรสร้างบ้านใหม่หลังเล็กๆที่มั่นคง
มีเงินให้พ่อแม่ไถ่ที่นาที่มีไม่กี่ไร่ ได้สำเร็จส่งเสียทางบ้านจนพ่อแม่ จากไป บ้านแลที่นาก็ฝากญาติๆ
ให้ดูแลทำนาแทนให้ไม่เอาค่าเช่า เพราะพี่น้องกันแค่ขอข้าวที่ทำได้ไว้ มาหุงกินในเวลาที่กลับไปดูบ้าน
ตัวลุงเองก็มาได้แฟนที่โรงงานก็อยู่กินกันมีลูกคนเดียว ซึ่งดูเหมือนจะดี แต่พิ ษเศรษฐกิจทำให้โรงงานเจ๊ง
ต้องปิดตัวเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วด้วยความ ที่ตอนนั้นยังมีแรงยังไหว กับการสู้ชีวิตในกรุง เลยมาสมัครเป็น ย า ม เพราะรายได้ดี
ส่วนแฟนและลูกลุงก็ให้ กลับไปอยู่บ้านนอกแทน โดยส่งเงินให้ทุกเดือน ให้ไปทำนา ปลูกผักดูแลบ้านและที่นา
และตอนนี้ลุงแกบอกว่า อายุมากแล้วกลับไปบ้าน นอกดีกว่าอะไรๆ ก็เจริญที่นา 3 ไร่ก็แบ่งให้เขาเช่าทำนาเก็บไว้ทำเอง
แค่ไร่เดียวปลูกผักเลี้ยงปลามันก็พอมีกิน ลูกเมียก็ อ ย า กใ ห้กลับไปบ้าน ลูกก็โตแล้วเรียนใกล้จบแล้ว ก็คงหางานทำที่บ้าน
แกบอกพอกันทีชีวิตเมืองหลวง ค่าใช้จ่ายแพงได้เงินค่าจ้างมา ก็โดนค่าเช่าบ้านขนาดอยู่ราคาถูกๆยังขึ้นได้ทุกปี
ค่าอาหาร ค่าเดินทางมาทำงานหั ก วันหยุดออกแล้วรายได้วันละ 700 เดือนๆ หนึ่งเหลือไม่เท่าไหร่แกบอก
ที่ได้เยอะเพราะอยู่มานาน ทำงานดีบริษัทก็ให้เงินขึ้น เจ้าของสถานที่ที่แกมาเฝ้าใ ห้เขาก็ให้พิเศษเพิ่ม
แกบอกว่าอยู่บ้านอกไม่มี คำว่าอดหากขยัน มีของให้กินทุกวันไม่ต้องซื้ อหากรู้จักทำ เห็นไหมว่าจาก
ตัว อ ย่ า ง ที่ยกมาให้ดูนั้น มันก็เป็นเพียงเศษเสี้ยว ของการออกจากงานที่จริงๆ มันมีเหตุผลมากมายกว่านี้
แต่ทุกคนที่ได้คุยและสอบ ถามมานั้นทุกคนคิดแล้วว่า การออกจากงานทำให้ได้สิ่งที่ดีกว่า แม้ว่าจะเป็นเรื่องของอนาคต
แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ หมดใจในการทำงาน หมดไฟในการต่อสู้กับงานที่กินเงินเดือน
ขอขอบคุณที่มา create-readingth