
สาเหตุ 6 ข้อ ที่ทำให้ตัวคุณจนไม่รู้ตัว
1 ใช้ชีวิตเกินค่าครองชีพ
หลายคนใช้ชีวิตอย่ างฟุ่มเฟือย ทั้งจับจ่าย ตามใจชอบซื้อของ
ที่อย ากได้ หรือแม้แต่ยอม เป็นหนี้บัตรเครดิต เพียงเพื่อต้องการซื้ อ
สิ่งของที่ไม่จำเป็นมา ประดับชีวิตคุณให้ดูดี และ ดูมี เหมือนคนอื่น
คนอื่นที่ว่าอาจทำได้ เพราะสถานะทางการเงิน ของเขาอาจมั่นคง
หรือพร้อมกว่า แต่การใช้เงิน เกินค่าครองชีพที่จำเป็น เช่น กาแฟ
แก้วละ 35-40 บาท กับ กาแฟแก้วละ 100-170 บาท ราคากาแฟ
แก้วละเท่าไหร่ ที่คุณรู้สึกว่าซื้อง่าย จ่ายสบายใจ ได้ทั้งเดือน
นั่นคือราคากาแฟ ที่เหมาะกับค่าครองชีพ ที่คุณแบกรับไหว
หากรู้สึกว่าหนักใจ ที่จะจ่ายแต่ อ ย า ก ซื้อนั่น คือสัญญาณ
อั น ต ร า ย ทางการเงิน ที่คุณกำลังใช้ เกินตัวอยู่
2 หนักไม่เอา เบาไม่สู้
ความจน น่ากลัวกว่าที่คุณคิด ถ้าหากคุณลอง ถามมหาเศรษฐีทุกคน
ที่เริ่มต้นจากศูนย์ แต่ขยันทำมาหากิน พัฒนาตนเอง
และกล้าก้าวข้าม ความเหน็ดเหนื่อยจนกระทั่ง สร้างตัวจนร่ำรวย
พวกเขาเหล่านั้น จะตอบเป็นเสียง เดียวกันว่า ไม่อย ากกลับไปจนอีก
แต่สำหรับหลายคน ที่ยังเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือ เพิ่งเริ่มธุรกิจส่วนตัว
แต่ยังไม่สู้งานหนัก ไม่พร้อมกลับบ้านดึก หรือเดินหนีปัญหาที่อยู่ตรงหน้า
ที่ควรรับผิดชอบ ก็คง ย า ก ที่จะพัฒนาไปสู่ ความมั่งคั่งทางการเงิน
เพราะโอกาส ทองมาพร้อมหย า ดเหงื่อเสมอ
3 ผัดวัน ไม่มีวินัย ชิลไปวันๆ
สโลว์ไลฟ์ คือชีวิตชั้นสูง ที่คนที่มีฐานะทางการเงิน พร้อมพรั่งเท่านั้น
จึงจะพร้อมสำหรับ การนั่งจิบกาแฟเรื่อยๆ ท่องเที่ยวแบบไม่เร่งรีบ
บินไปเที่ยวเมื่ออย ากไป ใช้เงินซื้อ ความสะดวกสบาย เท่าที่สบายใจ
แต่กลับมาก่อน คุณยังเป็นหนี้ คุณยังไม่มีการเงินที่มั่นคง
คุณยังไม่มีความสะดวกมือในการจับจ่ายเพราะคุณยังไม่มีวินัย
ทางการเงินที่ดีและรัดกุม ที่สำคัญ คุณยังทำงานและเก็บเงิน
แบบผัดวันประกันพรุ่งอีกด้วย การเรียบเรียงชีวิตใหม่ จัดลำดับ
ความสำคัญ 1 2 3 ว่าเป้าหมายที่คุณต้องการในชีวิตคืออะไร
จะทำให้คุณวางแผน ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง และสร้างวินัย
ให้กับชีวิตที่ ต้องการได้เร็วขึ้น เป็นเท่าตัว
4 ไม่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น
ไม่มีใครสามารถ ทำงานคนเดียวได้ แม้แต่อาชีพฟรีแลนซ์ ก็ยังต้องมี
คอนเน็คชั่นเพื่อสร้างงาน คุณภาพให้ประสบความสำเร็จ เมื่อคุณต้อง
ทำงานร่วมกับผู้อื่นในทีม สิ่งสำคัญไม่ใช่ผลงาน ที่ประสบความเร็จ
ตามเป้าแต่คือประสิทธิภาพ ในการประสานงาน ให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด
ตามที่ตั้งเป้าไว้ หลายคนพลาดโอกาส สำคัญในการก้าวหน้า
หรือเลื่อนตำแหน่งงาน เพราะไม่สามารถ ปฏิสัมพันธ์กับผู้ร่วมงาน
คนอื่นได้จึงทำให้ผู้บริหาร เห็นว่าคุณยังไม่เหมาะสม จะเลื่อนตำแหน่ง
หรือหากคุณทำธุรกิจอยู่ ก็คงจะติดขัด อ ย่ า ง แน่นอน
หากต้องร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ เพื่อขย ายธุรกิจ แต่คุณกลับทำตัว
เป็นพระเอกอยู่คนเดียว และเที่ยวบอกใครๆ ว่าคุณทำงานนี้สำเร็จทั้งๆ
ที่เป็นผลจาก การทำงานร่วม กันของทีมงาน
5 กลัวการตั้งเป้าหมายในชีวิต
การพุ่งชนเป้าหมาย อาจเป็นเรื่องน่ากลัว สำหรับบางคน เช่น
คนที่ตั้งเป้าว่าจะ ปลดหนี้ แต่กลัวการเห็นเงิน ในบัญชีพร่องลงจาก
การชำระหนี้ตรงตามเวลา หรือไม่มีวินัยในการปลดหนี้
จึงทำให้เลี่ยงการชำระหนี้ จนเป็นเหตุให้ต้อง แบกรับภาระ ด อ กเบี้ย
ที่เพิ่มขึ้น หรือบางคนตั้งเป้าหมาย ว่าจะเก็บเงิน 10-20% จากเงินเดือน
เป็นประจำแต่กลับถอดใจ เพราะเห็นสินค้าที่ชอบ กำลังลดราคากระหน่ำ
ทำให้ต้องควักเงินซื้อมาจนได้ และเป้าหมายที่ อ ย า ก เก็บเงินจึงล้มเหลว
ไม่เป็นท่า ความล้มเหลวที่ คนเหล่านี้ประสบคือ ความกลัวเป้าหมาย
ที่ตนอย ากทำ หรือไม่กล้ามีเป้าหมายเพราะ กลัวทำไม่ได้ จึงเป็นอุปสรรคสำคัญ
ที่จะทำให้ชีวิตของคุณ พังและไม่สามารถหลุดพ้น ความจนได้สักที
6 คิดมากจนก้าวสู่ความ ข ี้ขลาด
คนคิดมากกับคนรอบ คอบนั้นต่างกัน คนคิดมากจะไม่ลำดับข้อมูล
ที่ควรนำมาไตร่ตรอง แต่จะนำทุกปัญหามารวมกัน จนทำให้ไม่เห็นทางออก
แต่คนที่คิดรอบคอบ จะคิดเป็นเรื่องๆ และลำดับความสำคัญว่าเรื่องใด
ควรมาก่อนมาหลัง ทำให้คิดเป็นกระบวนการ และได้คำตอบใน
แต่ละปัญหา อ ย่ า ง รวดเร็ว ซึ่งคนประเภทที่ คิดมากเมื่อทำธุรกิจ
จะไม่กล้าวางแผนในการต่อ ยอดธุรกิจเพื่อสร้างกำไร เพราะกลัวความล้มเหลว
ทำให้เสียโอกาสสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจเติบโต หรือคนที่คิดมากเมื่อ
ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน จะกลัวการแสดง ความคิดเห็น หรือไม่กล้า
ที่จะทำงาน ย า ก ๆ เพื่อพัฒนาตนเอง ซึ่งเป็นเพราะการไตร่ตรอง
โดยใช้ทุก ความคิดมารวมกัน จนกลายเป็นความกังวลหรือ ข ย า ย จน
เป็นความ ข ี้ ขลาด ที่จะรับผิดชอบงานที่ใหญ่ขึ้น ทั้งๆ ที่โอกาสมาอยู่ตรงหน้า
ขอขอบคุณที่มา p a r t i h a r n, verrysmilejung