6 เคล็ดลับที่ธนาคารไม่เคยบอก ปลดหนี้ให้หมดเร็ว
1 รีบผ่อนจ่ายให้มากในช่วง ด อ ก เบี้ยต่ำ
ช่วง 3 ปีแรกของ การ ก ู้ซื้อบ้านแน่นอนว่า ด อ ก เบี้ยจะถูกที่สุด
เนื่องจากโปรโมชั่นของแต่ ละธนาคารจะ พ ย า ย า ม เสนอให้คุณในอัตรา ด อ ก เบี้ยที่ต่ำกว่าคู่แข่ง
เพื่อให้ คุณตัดสินใจเลือก ก ู้กับธนาคารนั้น
ดังนั้นคุณจึงควรจัดสรร เงินเก็บในช่วง 3 ปีแรก เพื่อนำมาผ่อนให้มากขึ้น
เพื่อไปลดเงินต้นและ ดอ ก เบี้ยในการ ก ู้เมื่อเงินต้นลดลงก็จะ ทำให้ ด อ ก เบี้ยลดลงเช่นกัน
ทำให้ระยะเวลา ในการผ่อนจาก 30 ปีจะลดลงไปด้วย
2 พ ย า ย า ม จ่ายให้เกินเงินงวดในทุก ๆ เดือน
เงินสินเชื่อบ้านนั้น จะมีทั้งเงินต้นและเงิน ด อ ก ในช่วงแรก ๆ นั้นแน่นอนว่าจะมี ด อ ก เบี้ยสูงมาก
ดังนั้น หากคุณจ่ายเท่ากับ จำนวนเงินที่ธนาคารกำหนดมานั้น คุณต้องใช้หนี้กันเต็ม ๆ 30 ปีเลยนะคะ
ดังนั้น คุณจึงควรจ่ายเพิ่มขึ้นทุก ๆ เดือน เพราะเงินที่จ่ายเกินไป ในแต่ละเดือนนั้น
ธนาคารจะนำไป ลดเงินต้นของ คุณนั่นเอง
ตัว อ ย่ า ง เช่น เงินงวดที่คุณจะต้องชำระแต่ละ เดือนเท่ากับเดือนละ 15,000 บาท
แต่หากคุณผ่อนเกินไปเดือนละ 20,000 บาท ก็จะทำให้เงินต้น ของคุณลดลงไปเดือนละ 5,000 ในทุก ๆ เดือน
เมื่อเงินต้นของคุณลดลงแล้ว จะทำให้ระยะเวลาในการผ่อนของ คุณลดลงไปด้วยเหลือเพียบ 15-20 ปีเท่านั้น
3 เมื่อครบกำหนดของธนาคารให้ปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อผ่อนบ้าน ผ่ า น ไปครบ 3 ปีแล้ว ด อ ก เบี้ยบ้านจะเปลี่ยนเป็น
แบบ MRR อัตรา ด อ ก เบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์ เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี
ตัว อ ย่ า ง เช่น ใน 3 ปีแรกธนาคารกำหนดอัตรา ด อ ก เบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 3 บาทต่อปี
เมื่อเข้า สู่ปีที่ 4 ธนาคารกำหนดให้ ด อ ก เบี้ยเป็น MMR-1 แล้ว
MRRในแต่ละปีจะแตกต่างกันไป สมมุติในปีนี้กำหนดให้ MMR = 7%
ดังนั้นกลายเป็นว่าปีนี้ คุณจะต้องจ่าย เท่ากับ 7-1 = 6 บาท
ซึ่งหมายถึง ด อ ก เบี้ยเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวและเงินงวดที่จ่ายไปนั้นจะจ่ายเป็นเงิน ดอ ก เบี้ยซะส่วนใหญ่เลยค่ะ
จึงจำเป็น อ ย่ า ง ยิ่งที่คุณจะต้องรีบปรับโคร งสร้างหนี้เสียใหม่เมื่อเข้าปีที่ 4
โดยมีวิธีปรับลดอัตรา ด อ ก เบี้ย 2 วิธีดังนี้ คือ
Refinance การรีไฟแนนซ์ คือ การ ย้ า ย หนี้จากธนาคารเดิมของ คุณไปยังธนาคารใหม่
ซึ่งธนาคารใหม่จะเสนอ ด อ ก เบี้ยในอัตราที่ถูกลงให้กับคุณเพื่อ จะให้คุณสามารถปิดหนี้ได้เร็วขึ้น
Retention การรีเทนชั่น คือ การขอลดอัตรา ด อ ก เบี้ย กับธนาคารเดิม ที่คุณผ่อนชำระอยู่
เพื่อให้ ด อ ก เบี้ย ในการผ่อนชำระลดลง หรือเท่ากับปีก่อน ๆ ที่เคยผ่อนชำระมา
คุณมีสิทธิ์เลือกว่าจะ ทำการรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ หรือทำการรีเทนชั่นกับธนาคารเดิมก็ได้ ตามที่เหมาะกับคุณ
ซึ่งแต่ละแบบนั้นจะมี ข้อดีข้อเสียต่างกัน อ ย่ า ง เช่น การรีไฟแนนซ์นั้น อาจจะทำให้ ด อ ก เบี้ยของคุณถูกลงกว่าธนาคารเดิมมาก
แต่คุณจะต้องเตรียมเอก ส า ร ใหม่ทั้งหมด และต้องใช้เวลาในการอนุมัติอีกด้วย และอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นมา
ส่วนการรีเทนชั่น นั้นไม่ต้องยุ่ง ย า ก ในการเตรียมเอก ส า ร เพราะธนาคารเดิมของคุณมีข้อมูลอยู่แล้ว
การพิจารณาอนุมัติเร็วหากคุณเป็นลูกค้าชั้นดี คือจ่ายเงินตรงตามจำนว นและเวลาที่กำหนดตลอด
แต่อัตรา ด อ ก เบี้ยก็จะเป็น ไปตามที่ธนาคารกำหนด และมีค่าธรรมเนียมอีกด้วย
4 โปะเงินก้อน
ในแต่ละปีหากคุณมีเงินเก็บหรือได้โบนัสมาจากบริษัทที่ทำงานอยู่
คุณสามารถนำเงินก้อนเหล่านี้มาโปะหนี้บ้านของ คุณซึ่งเงินก้อนนี้สามารถลดทั้งต้น และ ด อ ก เบี้ยลงเป็นจำนวนมากเลยค่ะ
หรือคุณอาจจะวางแผน เพื่อจ่ายเงินงวดเพิ่มขึ้นอีก 1 งวด จากเดิมคุณต้องจ่าย 12 งวดแต่ให้คุณจ่ายเพิ่มเป็น 13 งวด
ก็สามารถลดเงินต้น และเงิน ด อ ก เบี้ยบ้านให้กับคุณไปได้มากเช่นกัน
5 ติ ด ตามโปรโมชั่นของธนาคารเรื่อย ๆ
ให้คุณหมั่น ติ ด ตามข่าว ส า ร ของธนาคารที่ตนเองมีสินเชื่อ อยู่หรือธนาคารอื่น ๆ ที่เสนอ ด อ ก เบี้ยที่ถูกลง
ซึ่งแต่ละธนาคารจะมีโปรโมชั่น บ้านต่างกันไปหากเงื่อนไข ของธนาคารนั้น ๆ ตรงกับคุณสมบัติของคุณ
ก็เป็นโอกาสดีที่จะทำให้ คุณผ่อนบ้านในอัตรา ด อ ก เบี้ย ที่ลดลงได้
6 ไม่สร้างหนี้เพิ่ม
นอกเหนือจากการ พ ย า ย า ม ผ่อนเพื่อลดเงินต้นลดเงิน ด อ ก ของคุณแล้ว คุณต้องมีวินัยในการใช้จ่าย
ด้วยการไม่สร้างหนี้ใหม่ ให้เกิดขึ้นเป็นยังไงกันบ้างค่ะพอจะทราบวิธีปลดหนี้ บ้านของคุณให้หมดเร็ว ๆ กันบ้างแล้วใช่ไหมคะ
ดังนั้นหากคุณวางแผนการเงิ นและค่าใช้จ่ายของคุณดี ๆ ก็สามารถทำให้หนี้บ้านของคุณหมดเร็วขึ้นนะคะ
ขอขอบคุณที่มา forlifeth