2 วิธี แก้ให้ตู้เย็นเก่าไม่กินไฟ
ตู้เย็นเป็นอีกหนึ่ง เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วย อำนวยความสะดวกในทุกบ้าน
หากเป็นตู้เย็นที่ ผลิตมาในช่วงปีหลังๆ จะมีการ ติ ด ป้ายประหยัด ไฟเบอร์ 5 อยู่เสมอ
แต่ถ้าหากเป็นตู้เย็น ที่ใช้งานไปเป็นระยะเวลานาน หรือแม้แต่ตู้เย็นเก่า อาจทำให้
ตู้เย็นกล า ยเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่กินไฟเกินกว่าปกติ และยังอาจส่ งผลให้เกิด
อั น ต ร า ย อื่นๆ ต ามมาด้วย หรือแม้แต่ถ้าหาก ใช้งานผิดวิธี ก็อาจทำให้เป็นสาเหตุ
ที่ทำให้กินไฟเพิ่มขึ้น เช่น ไม่ละล า ยน้ำแข็งที่ช่องฟรีซ ทำให้ตู้เย็นต้องทำงาน
หนักกว่าเดิม หรือแม้แต่ การวางตู้เย็นไม่จุด อาจวางใกลักับบริเวณ ที่มีความร้อน
การเปิดปิดตู้เย็นบ่อยๆ ก็จะทำให้ตู้เย็นต้องทำงาน หนักขึ้นเช่นกัน วิธีแก้ให้
ตู้เย็นทำงานปกติ สามารถทำได้เอง มีดังนี้
1 การจัดวางตู้เย็น
ให้ยกขาหน้าของตู้เย็น สูงกว่าด้านหลังเล็กน้อย สามารถใช้วัสดุอย่ า ง ย า ง
หรือแผ่นไม้รองขาด้านล่าง เพื่อให้ประตูตู้เย็น โน้มปิดได้สนิท ช่วยให้
ไอความเย็น ของตู้เย็นไม่หลุด ลอ ดออ กมาด้วย
2 ขอบย า งของตู้เย็น
เป็นสิ่งที่หากเมื่อถอด อ อ กมาล้างทำความสะอาด เรียบร้อย ให้ลองนำมา
แช่น้ำอุ่นไว้ เพราะน้ำอุ่นจะ ช่วยให้ขอบย า งข ย า ยตัว เมื่อเช็ดทำความสะอาด
ให้แห้ง นำกลับไปประกอบ ต ามเดิมจะช่วยลดรอยรั่ว ในตู้เย็นได้เป็นอ ย่ า งดี
ทั้งนี้วิธีตรวจสอบตู้เย็นที่บ้าน ว่ากินไฟมากกว่าปกติหรือไม่ ให้ลองใช้กระดาษ A4
เสียบเข้าบริเวณตรงประตู ตู้เย็นเพียงครึ่งเดียว หนีบไว้แล้วปิดประตูตู้เย็น
แล้วลองดึงกระดาษดู หากดึงกระดาษได้ย า ก หรือ ดึงไม่ออ ก แสดงว่าตู้เย็น
ยังคงสภาพ การใช้งานที่ดี เพราะขอบย า งตู้เย็นไม่เสื่ อมอายุการใช้งาน
แต่ถ้าหากดึงออ กได้อ ย่ า งง่ายดายก็ให้สันนิษฐาน ไว้ก่อนล่วงหน้าเลยว่า
ตู้เย็นอาจอยู่ในสภาพ การทำงานที่ ไม่สมบูรณ์แล้วนั่นเอง
ขอขอบคุณที่มา krustory, rooormai