2 ประเด็น บ่งบอกว่าเรียนจบสูงไม่สำคัญเท่ากับคนที่ทำงานเป็น
1 เรื่องการเรียน
ถ้าจะว่าไป การศึกษาเล่าเรียนมันเป็นเรื่อง ของตนคนนั้นเพียงคนเดียว
เรียนดี เรียนแย่ ก็อยู่คนคนนั้นทำเองทั้งสิ้น พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง
ช่วยอะไรไม่ได้ ส ถ าบั นที่เรียนที่จบมาก็ไม่เกี่ยว อยู่ที่ฝีมือตัวเองล้วน ๆ
ถ้าผลการเรียน ออกมาดีก็มีแนวโน้มว่า น่าจะทำงานเก่งนนะ เพราะกว่าจะจบ
มันต้องฝึกต้องฝนกัน มากมายหลายกระบวนท่า แต่อย่ างไรก็ตาม การฝึกฝน
ในช่วงระหว่างที่กำลังเรียนอยู่นั้น มันฝึกฝนอยู่ใน กรอบของสมมติฐานที่ว่า
ฝึกเพื่อเรียนรู้ ถ้าถูกก็แล้วไป แต่ถ้าผิดก็กลับไป แก้ไขใหม่จนกว่าจะดีขึ้น
ซึ่งเป็นหลักง่าย ๆ ของชีวิตนักศึกษา เชื่อว่าเคย ผ่ า น กันมาทุกคน สังเกตุดี ๆ จะเห็นว่า
ในช่วงที่เรา กำลังศึกษาอยู่นั้นหากเรา คิดผิด ทำผิด มันจะถูกลงโทษ
เพียงอย่ างเดียวคือ เกรดหรือผลการเรียนจะ ออกมาไม่ดีหรือไม่ก็ติดเอ็ฟ F
ต้องไปลงทะเบียน เรียนใหม่กับ เ ด็ ก รุ่นน้อง บางคนก็ไม่ถือเพราะหน้าด้าน
บางคนเครียดมาก เพราะอายกับการที่จะ ต้องไปเรียนกับรุ่นน้อง
ชีวิตวัยเรียน มีเรื่องให้เครี ย ดปว ดสมอ งไม่กี่เรื่อง นอกนั้นเป็นเรื่องสนุกสนาน
เฮฮาปาร์ตี้เสีย เป็นส่วนใหญ่ บางคนถึงกับไม่อย ากจบออกมา เพราะยังอย ากสนุก
กับชีวิตในช่วงวัยนี้ต่อไปอีก แต่เมื่อถึงเวลาจบก็ต้องจบ อยู่ที่ว่าตอนจบของช่วงวัย
จะจบออกมาดี หรือ จบออกมาแบบไม่ได้เรื่อง ซึ่งจะถูกนำไปพิสูจน์ต่อไป ในช่วงชีวิตวัยทำงาน
2 เรื่องการทำงาน
การทำงานคือการพิสูจน์ คุณภาพของคนว่าคน คนนั้นมีคุณภาพแค่ไหน
คุณภาพมาก แค่ไหนวัดกันอ ย่ างไร ง่าย ๆ เลย ก็แค่วัดว่า ผลของ
งานที่ทำสัมฤทธิ์ออกมา มันเกิดคุณค่าหรือประโยชน์ แก่คนอื่นมากแค่ไหน
นั่นแหละคือคุณภาพ จะเห็นว่าตอนเรียนเรา ไม่วัดผลการเรียนแบบนี้เลย
การเรียน เป็นอะไรที่ง่ายสอบ ไม่ ผ่ า น ก็ลงเรียนใหม่ แต่ถ้าทำงานแล้ว
ทำไม่ ผ่ า น เกิดอะไรขึ้นบ้าง เสียเวลา เสียเงิน เสียใจ ถูกเจ้านายด่า
เพื่อนร่วมงานขาด ความเชื่อถือ ทั้งหมดนี้คือโลกของ ความจริงโลกที่
แสนเจ็ บป ว ดเมื่อทำผิดพลาดขึ้นมา ในขณะเดียวกัน มันก็โลกที่หอมหวาน
เมื่อเราทำงานสำเร็จขึ้นมา เกิดคุณค่าต่อผู้อื่นในวงกว้าง สังเกตุดี ๆ
ชีวิตในช่วงกำลังเรียนคือช่วง อยู่ในโลกของจินตนาการ แต่ชีวิตในช่วงทำงาน
มันคือโลกแห่งความจริง คนที่ประสบความสำเร็จ ในชีวิตทั้งหลายเขาเชื่อว่า
ถึงแม้เรียนจบจากช่วง ชีวิตวัยเรียนแล้วเขาหา ได้คิดว่าเขาต้องหยุดเรียนรู้
อยู่แค่นั้นไม่ แต่กลับกลายเป็นว่าพอจบการเรียนในช่วงวัยเรียน จะต้องศึกษา
แบบจริง ๆ จัง ๆ ต่อในระดับที่สูงขึ้นไปอีก คือระดับมหาวิทย าลัยชีวิต
ซึ่งจะต้องเรียนรู้ ทุกลมหายใจ เพราะมันจะมีผล ได้-เสีย ในทุกครั้งที่ลงมือทำ
อะไรก็ตาม และจะต้องศึกษา ไปจนวัน ต า ย ในมหาวิทย าลัยชีวิตแห่งนี้
ส่วนคนที่ชีวิตล้มเหลวก็มี สาเหตุเพียงสาเหตุเดียว ก็คือไม่เรียนรู้ที่จะแก้ไข
ในสิ่งที่ผิด ให้ถูกต้อง มันก็ผิดซ้ำ ๆ ซาก ๆ จนหาคุณภาพไม่ได้
และสิ้นความน่าเชื่อถือในที่สุด และสุดท้ายก็คือ ล้ มเ ห ล ว ดูน้อยลง
ขอขอบคุณที่มา T h i n k i n g C h a n g e M y L i f e, verrysmilejung