Home ข้อคิดชีวิต (เรื่องนี้เขียนได้ดีมาก) ต่อให้พ่อแม่มีเงินมากมาย แต่ไม่สามารถซื้อสมองที่ดีให้ลูกๆได้

(เรื่องนี้เขียนได้ดีมาก) ต่อให้พ่อแม่มีเงินมากมาย แต่ไม่สามารถซื้อสมองที่ดีให้ลูกๆได้

(เรื่องนี้เขียนได้ดีมาก) ต่อให้พ่อแม่มีเงินมากมาย แต่ไม่สามารถซื้อสมองที่ดีให้ลูกๆได้

(เรื่องนี้เขียนได้ดีมาก) ต่อให้พ่อแม่มีเงินมากมาย แต่ไม่สามารถซื้อ ส ม อ ง ที่ดีให้ลูกๆได้

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้ข้อคิด การเลี้ยงลูกกับบทความ พ่อแม่มีเงินทองมากมาย ก็ไม่สามารถซื้ อ มอ งที่ดีให้กับลูกได้ ไปดูกันว่าทำไมพ่อแม่ถึงไม่สามารถซื้ อสมอ งที่ดี ให้กับลูกได้เข้าใจว่า ทุกวันนี้การศึกษา คือ อนาคตความหวังที่ จะช่วยพลิกโอกาส

ให้ลูกคุณมี อนาคตที่ดี หลายๆ ครอบครัวจึงทุ่มเท ทุกสิ่งที่มีทั้ง เงินและเวลาแลก กับการให้ลูกได้ เรียนโรงเรียนดีๆ มีราคาสูงคอสติว สอนพิเศษต่าง ๆ มากมายจนลืมไปว่า ควรพัฒนาทักษะด้านอื่น ควบคู่กันไปด้วย ตอนที่ลูกอายุได้ 2 ขวบ เราส่งลูกเข้า เนอสเซอรี่ หมดค่าใช้จ่าย

ไปปีละ 8 หมื่น เพียงแค่คิดว่า กลัวจะพัฒนาไม่ทันเพื่อน เรียนไม่ทันเพื่อน กลายเป็นส่งลูกไป ติ ด หวัดที่โรงเรียน เพราะวัยนี้ ภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรงพอ ไหนจะเสี่ย งที่จะต้องเจอกับ พี่เลี้ยงที่ไม่ดี สอนแบบผิ ดๆ อีก กลายเป็นพฤติ ก ร ร ม ตัวอย่ าง ที่ซึมซับมาโดยไม่รู้ตัวเมื่ออนุบาล

ยันประถมเราจัดเต็มทั้งใน นอกหลักสูตรต้องกวดวิช าเพื่อเตรียมสอบเข้า ป.1 และเสริมด้วยคณิตศาสตร์ ว่ายน้ำไวโอลินอังกฤษ จี น ฯลฯ กลัวลูกจะไม่เก่ง กลัวจะน้อยหน้าข้างบ้าน หารู้ไม่ว่าจิตนาการ ต่างหาก คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะนำพาให้ลูกคุณเติบโต ขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่

ที่ประสบความสำเร็จ ได้ในอนาคต แต่คุณกำลัง บังคับให้ เรียนโน้น ทำนี่ ฝึกนั่น เป็นการปิ ด กั้ น พัฒนาการ ในด้านการ จินตนาการ และการฝึกคิดไปโดยอั ตโนมัติ เรากลัวว่าลูกจะไม่เก่ง แต่ไม่เคยถาม ความรู้สึกของลูกจริงๆ ว่าเขาฝันอย ากเป็นอะไร หรือ เพียงแค่เพราะ

เราแค่ยัดเยียดความฝัน ที่เราทำไม่สำเร็จ ความล้มเหลวที่เราทำให้พ่อแม่ผิ ดหวังไปไว้ ที่ลูก ให้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ เพื่อมาชดเชย ปมความล้ มเหล วในอดีตของเรา พอถึง มัธยมอมเปรี้ยว คราวนี้หนักเลย เพื่อที่จะสอบได้คะแนนดีๆ เพื่อเข้ามหาลัยดีๆ ได้ เรียนพิเศษ

ทุกเย็น หลังเลิกเรียน เ สา ร์ อาทิตย์ จัดเต็มวัน ปิดเทอมไม่มีพักส่งลูก เรียนซัมเมอร์ยุโรป ออสเตรลียบางทีลูกไม่ อย ากไป แต่พ่อแม่นี่แหละ อย าก ให้ไปบางบ้านหมดเงินปีละ 6-7 แสน เพียงเพื่อ ให้ลูกได้เรียนในสิ่ง ที่คิดว่าดีแต่ไม่รู้ดีจริงไหม ยังไม่ทันเข้ามหาลัยกดไปเป็น สิบล้าน

ถึงวัยทำงาน คือ โลกแห่งความเป็นจริง พอลูกเรียนจบก็คาดหวังว่า ลูกฉันเลี้ยงมา อ ย่ า ง พิเศษใส่ไข่ เพิ่มข้าว ดังนั้นจะจ้างลูกฉัน มันต้องแพงกว่าสิ นี่ส่ งเรียนไป สิบกว่าล้านเลยนะ ปัญหา คือ คุณค่าของใบปริญญา พ่อแม่กับ นายจ้างมองไม่เท่ากัน พ่อแม่ชาว ไ ท ย ตีค่า ใบปริญญา

ลูกรักสูงมาก เพราะเราอยู่ใน กระบวนการจ่ายเงินจริง ด้วยราคาสูง อ ย่ า งย า ก ลำบาก ย า ว นาน 20 ปีนายจ้าง กลับตี ค่าไม่สูงเท่าพ่อแม่ กลับมีคำถามใหญ่ ๆ 3 คำถาม คือ 1 ลูกคุณทำอะไรเป็นบ้าง 2 ลูกคุณเคยทำอะไ รสำเร็จมาบ้าง 3 ลูกคุณจะมาสร้าง ความสำเร็จอะไรให้ที่นี่

อ ย่ า ลืมว่ายุคนี้ คือ ยุคที่เปิดกว้าง คนอินเดีย พร้อมบิน มาทำงานที่ กทม. เขียนโปรแกรม เก่ง ยังกับคลอด ออกมาจากคอมพิวเตอร์ แถมขยันขันแข็ง ยังกับหุ่น ยนต์ คนฟิลิปปินส์ อินโด มาเลย์ พร้อมจะบิน มาทำงานที่กรุงเทพ พวกเขาเก่งภาษาอังกฤษลอจิกดี คุมงานเป็นหัวหน้า

โปรเจคต์ พรีเซนต์ดี ไม่แพ้ ฝรั่ ง คน จี น ไม่ต้องพูดถึง ความขยันอ่ าน ขยันข ายของขยันพบลูกค้า ใจสู้มาก ไม่ยอมแพ้ง่ายๆโดนด่ า ไม่ยุบพวกนี้ คือ ยอดเซลล์แมน แต่กับคนไ ทย ปริญญามหาลัยมันเริ่มจะเบลอ ๆ ไม่ศักดิ์สิทธิ์ เหมือนรุ่นพ่อแม่ แน่นอนว่าย่อมมีบางคนได้ไปต่อ

เจริญรุ่งเรืองโกอินเตอร์ แต่ก็มีจำนวนมากที่แป้กตั้งแต่อายุยังน้อย ความเห็นส่วนตัวผม ถ้าพ่อแม่ชาว ไ ท ย ส่วนหนึ่งที่ ลงทุนกับการศึกษา ลูกด้วยเงินจำนวน มากๆ ลองปรับแนวคิดสักเล็กน้อย ลองประหยัดเงินบางส่วน แล้วนำเงินก้อนเดียวนี้ เริ่มทำธุรกิจให้ลูก ในช่วงปิดเทอม

ให้ลูกได้ใช้ ความพย าย าม ลองผิ ด ลองถูก ริเริ่มสร้างสรรเป็น ผู้ประกอบการ ในยุคสมัยที่ อาชีพการงานไม่เป็นใจในอนาคตอีก 10-15 ปีข้างหน้า ลองเผื่อ เวลาจากการ ศึกษาที่จัดเต็ม เกินไป ให้เขาได้ลองริเริ่มเรียนรู้ ลองเขียนหนังสือ ลองเขียนโปรแกรม สร้างแอพลองdesign

รับงานแปล ลองข า ยของ ลองลงทุน ฯลฯ จนท้ายที่สุด ได้ลองหาเงินด้วยตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะเข้าเรียน มหาลัย ถ้าเขาสามารถส่ งตัวเองเรียนได้ หรือ มีรายได้มาแบ่ง เบาภาระเรื่องค่าศึกษาได้บ้าง อันนี้จะช่วยพัฒนาเขาได้ ไม่แพ้การศึกษ าในระบบที่แสนแพง พ่อแม่ได้ภูมิใจลูกได้ฝึก

ภูมิ ต้า น ทาน และ ความแกร่ง เพราะ เงินเพียงอย่ า งเดียวไม่สามารถซื้อ สมอ งให้ลูกคุณได้ ซึ่งหมายถึง ส ม อ ง จริงๆ ไม่ใช่คะแนนสอบที่สูงลิ่ว แต่คิดอะไรเองไม่ได้ เริ่มต้น ทำอะไรเองไม่เป็น อันนั้นไม่ได้เรียกว่า ฉลาด แต่เรียกว่าท่องจำเก่ง แล้วนำไปทำข้อสอบได้ มันคงจะดีกว่านี้ สำหรับลูกคุณถ้า ทั้งเก่ง ในข้อสอบ และเก่งในทักษะชีวิตจริง

ขอขอบคุณที่มา นิ้วโป้ง , c h a y e n d, verrysmilejung

Load More Related Articles
Load More By sitsmiling-B
Load More In ข้อคิดชีวิต

Check Also

วิธีการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าทำเองได้ง่ายๆ

วิธีการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าทำเองได้ง่ายๆ เครื่องใช้ไฟฟ้า กับเครื่องซักผ้าที่ในทุกๆบ้ า…